หนุ่มผู้เสียหายเข้าขอความช่วยเหลือกับทนายตั้ม หลังถูกนายกสมาคมกีฬาแห่งหนึ่งขับรถปอร์เช่ชนท้าย ก่อนเปลี่ยนตัวคนขับรับผิด บ่ายเบี่ยงชดใช้ค่าเสียหาย
วันนี้ (11 ก.ค.) ที่ สำนักงานทนาย ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม นายปรินทร รุ่งจินดาพร ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว เข้าร้องเรียนกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม หลังถูกนายกสมาคมกีฬาแห่งหนึ่ง ขับรถหรูชนจนได้รับความเสียหาย ก่อนเปลี่ยนตัวผู้ขับขี่มารับผิดแทน โดยมีหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณถนนเลียบด่วนมอเตอร์ พื้นที่ สน.ประเวศ ในคืนวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา
นายปรินทร เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนเองขับรถมาจากย่านพระราม 9 กำลังกลับในเขตสวนหลวง แต่ระหว่างทาง ขณะเตรียมจะกลับรถ มีรถยี่ห้อปอร์เช่ คู่กรณีขับมาด้วยความเร็วชนท้ายรถได้รับความเสียหาย จากนั้นทั้งสองได้ลงมาเจรจากัน ซึ่งในขณะนั้นคู่กรณียอมรับว่า เป็นคนผิดและยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้ เนื่องจากรถไม่มีประกัน แต่คู่กรณีกลับโทร.เรียกลูกชาย 2 คน มาที่เกิดเหตุ ในวงจรปิดใส่ขาสั้นลงจากรถเก๋งสีขาว และคนใส่ขายาวเป็นตำรวจ เป็นลูกชายทั้ง 2 คน ก่อนไปเจรจาต่อที่โรงพัก สุดท้ายปรากฏว่า ลูกชายของคู่กรณี เป็นคนรับผิดแทน โดยมีลูกชายอีกคน ซึ่งระบุว่า เป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรเป็นคนช่วยวางแผน
หลังจากวันนั้น ผู้เสียหายพยายามติดต่อเพื่อทวงถามค่าเสียหาย เป็นค่าเช่ารถ 30 วัน เป็นจำนวนเงิน 30,000 บาท แต่คู่กรณีจ่ายเพียงวันละ 500 บาท 12 วัน เป็นจำนวนเงิน 6,000 บาท และพยายามติดต่อเพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหายอื่นๆ ก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จึงตัดสินใจเข้าปรึกษาด้านกฎหมายกับนายษิทราในวันนี้
ด้าน นายษิทรา เผยว่า จากการตรวจสอบคู่กรณีเป็นถึงระดับนายกสมาคมกีฬาชนิดหนึ่ง แต่กลับไม่รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหาย อีกทั้งยังทำการสับเปลี่ยนผู้ขับขี่ มีความผิดเรื่องชนแล้วหนี และยังเป็นการร่วมกันให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่ โดยในวันนี้ นายษิทรา จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลประเวศ ในเวลา 20.00 น.
จากนั้นทนายตั้มและผู้เสียหาย ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับคู่กรณี เพื่อเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย โดยทางฝั่งผู้เสียหาย บอกว่า สาเหตุที่ต้องมาปรึกษาทนายตั้ม เพราะคู่กรณีเงียบหายไม่ยอมติดต่อตนเองค่อนข้างเดือดร้อน และไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ส่วนฝั่งคู่กรณี ยืนยันว่า ไม่ได้หลบหนีเพียงแต่รอขั้นตอนเรื่องประกัน ยืนยันว่า จะชดใช้ให้ พร้อมแจ้งว่า ผู้เสียหายต้องการเงินชดเชยเท่าไหร่ให้บอกเลขที่บัญชีมาจะรีบโอนไป ทนายตั้ม บอกว่า เดี๋ยวจะให้ผู้เสียหายไปคิดค่าเสียเวลา และค่าเสียหายต่างๆ แล้วจะแจ้งไป ซึ่งคู่กรณีได้บอกกลับมาว่าอย่าให้ถึงหลักแสนเลย ซึ่งฝั่งผู้เสียหายบอกว่า ก็ชดใช้ตามความเป็นจริง
