ตร.สอบเค้นสอบ ไฮโซทะเลกับเพื่อน พร้อมปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทนายโต้คู่กรณีพูดความจริงไม่หมด ยันไม่ได้ร่วมปล้นอ้างมีทรัพย์สินมากกว่า ทรัพย์สินที่หายไป จ่อแจ้งความกลับ ฐานแจ้งความเท็จ
วันนี้ ( 10 ก.ค.) ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ควบคุมตัวนายธฤต ณ พัทลุง หรือ ไฮโซทะเล และ นายเพชร บุญวงษ์ มาสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม หลังจากที่ทั้งสองคนถูกจับกุมในความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์ และกักขังหน่วงเหนี่ยว กรณีมีผู้เสียหายชาวสิงคโปร์ แจ้งความว่าถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 7 คน ซึ่ง 2 ใน 7 คนนั้น คือ นายธฤต และนายเพชร ที่ร่วมกันปล้นทรัพย์ของผู้เสียหาย รวม 4 ล้านบาท โดยผู้เสียหาย ยอมรับว่า รู้จักกับนายเพชร และนายธฤต มานานหลายปี เป็นกลุ่มกินเที่ยวด้วยกัน และอ้างว่าทั้งสองคน เสียเงินพนันออนไลน์ไปกว่า 10 ล้านบาท จึงมาขอยืมเงินใช้หนี้
ด้านทนายความของนายธฤต ยืนยันว่า ไฮโซทะเล ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ความจริงมีเพียงครึ่งเดียว ส่วนพฤติการณ์ไม่ได้ปล้นทรัพย์ตามที่กล่าวหา แต่ไฮโซทะเล ลงทุนกับนายหยาง (Yang) นักธุรกิจชาวสิงคโปร์ ผู้เสียหาย โดยลูกความตนไม่รู้ตัวว่าถูกออกหมายจับคดีก่อเหตุร่วมกันปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธ ซึ่งลูกความตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการร่วมกันก่อเหตุปล้นทรัพย์
แต่ยอมรับว่ารู้จักกับผู้เสียหายชาวสิงคโปร์ และอยู่ร่วมกับเหตุการณ์นี้จริง แต่ไม่มีแรงจูงใจที่จะก่อเหตุ เพราะลูกความของตัวเองมีธุรกิจ และมีทรัพย์สินมากกว่าของที่ถูกกล่าวหาว่าปล้นทรัพย์ไป จึงไม่จำเป็นต้องปล้นใคร อย่างไรก็ตาม ทนายอ้างว่า ผู้เสียหายชาวสิงคโปร์คนนี้ ยังเป็นลูกหนี้ของลูกความตน หลังมาขอยืมเงิน 1 ล้านบาทไปลงทุนทำธุรกิจเมื่อราวปีที่แล้ว ซึ่งตนมีหลักฐานการกู้ยืมถูกต้อง
ทนายความเปิดเผยอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการระบุว่า รถยนต์ปอร์เช่ มูลค่ามากกว่า 4 ล้านบาทของผู้เสียหายคนนี้ สูญหายไป ยืนยันว่า รถยนต์ไม่ได้อยู่กับลูกความตัวเอง มีเพียงคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค มูลค่าหลักหมื่นเท่านั้นที่อยู่กับไฮโซทะเล โดยเป็นการหยิบยืมกัน และตั้งใจจะเอาไปคืนอยู่แล้ว ส่วนตัวเชื่อว่า ผู้เสียหายชาวสิงคโปร์ พูดความจริงไม่หมด และกำลังพิจารณาว่า จะแจ้งความกลับ ข้อหาแจ้งความเท็จ เพราะทั้ง 3 คนมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงในการทำธุรกิจ
ส่วนกลุ่มชายฉกรรจ์ ที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้นรู้จักโดยผิวเผิน เพราะเคยไปเที่ยวด้วยกัน และมีเพียงลูกความของตน ที่พูดภาษาอังกฤษได้ จึงเข้าไปช่วยพูดคุยในวันเกิดเหตุ ซึ่งตำรวจกำลังติดตามตัวคนที่เหลือมาสอบสวนขยายผล เชื่อว่า ผู้เสียหายไม่มีเจตนาจะแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดนายเพชร และไฮโซทะเล แต่เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้เสียหายชาวสิงคโปร์รู้จักเพียงแค่ 2 คนนี้เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการควบคุมตัวเข้าห้องคุมขัง ไฮโซทะเล ค่อนข้างเครียด โดยทนายความได้ประสานเตรียมหลักทรัพย์ เพื่อยื่นขอประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนต่อไป