“สมศักดิ์ เทพสุทิน” พาคณะผู้ไกล่เกลี่ยลุยแก้หนี้สินให้คนปทุมธานี

ลูกหนี้ปทุมธานีเซอร์ไพรส์ กระทรวงยุติธรรม อาสาเป็นตัวกลางจัดงานไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนให้ครั้งใหญ่ ได้ส่วนลดยอดชำระหนี้จากผู้ประกอบการมากมาย เผย จัดงานทั่วประเทศ 41 ครั้ง บรรลุผลสำเร็จไปแล้วเกิน 3 หมื่นราย

วันนี้ (8 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ค. ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ร่วมจัดงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 41 และยุติธรรมพบประชาชน จ.ปทุมธานี ที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ จ.ปทุมธานี โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และลูกหนี้เป้าหมายหลายพันราย เข้าร่วมงานท่ามกลางมาตรการคัดกรองการป้องกันการ แพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนดีใจที่ได้เดินทางมาเป็นประธานในงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน และยุติธรรมพบประชาชน ครั้งที่ 41 มีเป้าหมายประชาชนที่เข้าร่วมงานครั้งนี้ 6,528 ราย ทุนทรัพย์ 966 ล้านบาท โดยการไกล่เกลี่ย 40 ครั้งที่ผ่านมา มีลูกหนี้ขอไกล่เกลี่ย 31,787 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 29,342 ราย สามารถลดค่าใช้จ่ายประชาชน 2,493 ล้านบาท โดยกระทรวงยุติธรรมยังมีศูนย์ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องทั่วประเทศ 934 แห่ง ผู้ไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง 3,278 คน และสำนักงานบังคับคดีช่วยไกล่เกลี่ยหลังฟ้อง117 แห่งทั่วประเทศเพื่อช่วยเหลือประชาชน

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการช่วยเหลือประชาชนของกระทรวงยุติธรรม เราพยายามปรับแก้กฎหมายให้ทันสมัย ซึ่งสำเร็จไปแล้วกว่า 10 ฉบับ ทั้งประมวลกฎหมายยาเสพติด กฎหมายปลดล็อกพืชกระท่อม และยังมีร่างกฎหมาย JSOC เพื่อป้องกันการกระทำผิดซ้ำ ที่ใกล้สำเร็จแล้ว และเรายังมีกองทุนยุติธรรม ให้ความช่วยเหลือประชาชนไปแล้ว 3,330 ราย โดยแบ่งเป็น ผู้ขอรับคำปรึกษากฎหมาย 252 ราย ผู้ขอรับความช่วยเหลือตามภารกิจของกองทุนยุติธรรม จำนวน 3,078 ราย คิดเป็นเงิน 264 ล้านบาท และพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา ได้ช่วยเหลือประชาชนไปแล้ว 109,400 คน เป็นเงิน 6,180 ล้านบาท ซึ่งตนยืนยันว่ากระทรวงยุติธรรมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการดูแลพี่น้องประชาชน

ทั้งนี้ ในพิธี นายสมศักดิ์ ได้มอบเงินเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน และร่วมการไกล่เกลี่ยด้วยตนเอง โดยรายแรกเป็นหนี้ ธกส. กู้มา 905,011 บาท เพื่อไปทำสวนส้ม ซึ่งผลการไกล่เกลี่ยทาง ธ.ก.ส.ลดให้ 50% เหลือ 452,505 บาท โดยลูกหนี้ระบุว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี และอยากให้มีระยะเวลาที่มากกว่านี้ เพราะหลายคนยังไม่พร้อมที่จะมาร่วมงาน ยังมีอีกหลายคนที่อยากเข้าร่วมโครงการนี้ รายต่อมาเป็นลูกหนี้ ธนาคารออมสิน ยอดหนี้รวมดอกเบี้ย 2,680,000 บาท มีบ้านค้ำประกัน โดยขอชำระปิดบัญชี ทางธนาคารออมสินให้จ่ายเพียง 1,700,000 บาท และทำเรื่องขอบ้านคืน รายต่อมา เป็นการไกล่เกลี่ยออนไลน์จาก จ.ขอนแก่น เป็นหนี้ธนาคารออมสิน 243,000 บาท ได้ลดหย่อนค่าดอกเบี้ย 66,000 บาท เหลือ 177,000 บาท และได้ที่ดินที่ค้ำประกันคืน โดยทางออมสินให้ไปติดต่อที่ธนาคารสาขาใกล้บ้าน รายสุดท้ายเป็นหนี้ กยศ. กู้มา 132,000 บาท ผ่อนมา 18 ปี ผ่อนเกินจำนวนเงินต้นไปแล้วแต่ผ่อนไม่ค่อยตรงเวลาจึงมีดอกเบี้ยและค่าปรับอีก 23,700 บาท ทางกยศ.ได้งดดอกเบี้ยและค่าปรับ ให้ปิดบัญชีไปเลย

ขณะที่ นายเขมภณ ฉัตรวิทยา ผู้ไกล่เกลี่ยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกระทรวงยุติธรรม ประจำศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี และ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนแขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย เปิดเผยว่า วันนี้ได้เป็นผู้ไกล่เกลี่ยทำหน้าที่ในบูธของธนาคารซิตี้แบงก์ ซึ่งมีลูกหนี้ของธนาคารที่เข้ามาร่วมในกระบวนการไกล่เกลี่ยในครั้งนี้เป็นจำนวนมากโดยทางธนาคาร ได้ให้ทางเลือกที่ดีต่อลูกหนี้สามารถเลือกชำระหนี้ใน 2 แบบ คือ 1. ชำระปิดยอดหนี้ลดให้ ส่วนลด 50% และ 2. ผ่อนชำระลดให้ 20% ของยอดหนี้ ซึ่งลูกหนี้ส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนในครั้งนี้ กล่าวรู้สึกชื่นชม รู้สึกยินดีและไม่คิดมาก่อนว่าจะได้รับส่วนลดมากมายขนาดนี้ อีกทั้งยังขอชื่นชมไปยังผู้จัดงานโดยเฉพาะกระทรวงยุติธรรมที่มีโครงการดีๆ แบบนี้ ทุกคนอาสาจะบอกต่อๆไปยังคนที่รู้จักในเรื่องการแก้ปัญหาหนี้สิน อีกทั้งยังวิงวอนขอให้กระทรวงยุติธรรมโดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพจัดโครงการดีๆ อย่างนี้อีกเพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้สินให้กับลูกหนี้ในยามที่เศรษฐกิจฝืดเคือง