xs
xsm
sm
md
lg

ตร.จัดทำ “สื่อไซเบอร์วัคซีน” เสริมภูมิคุ้มกัน ปชช.รู้เท่าทันอาชญากรรมทางไซเบอร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
MGR Online - ผู้ช่วย ผบ.ตร.สั่งผู้บังคับบัญชาทุกหน่วย ติวเข้มระบบประชาสัมพันธ์สื่อไซเบอร์วัคซีน” เสริมภูมิคุ้มกันประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางไซเบอร์

วันนี้ (2 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต้านภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี วิทยุในราชการ ตร.ถึง ผบช.น. ภ.1-9 ผบช.ก. และ สอท.ว่า ตามที่คณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน ได้มีการประชุมชี้แจงการใช้งานระบบประชาสัมพันธ์ สื่อไซเบอร์วัคซีน ให้แก่ หัวหน้าสถานีตำรวจทุกแห่ง ข้าราชการตำรวจผู้ทำหน้าที่ดาวน์โหลดและผู้ทำหน้าที่รายงานผลการปฏิบัติ โดยเริ่มใช้งานระบบในวันที่ 1 ก.ค. 65

ดังนั้น เพื่อให้การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ สื่อไซเบอร์วัคซีนในช่องทางต่างๆ ตรงตามเจตนารมณ์ของคณะทำงานฯ โดยไม่ให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของผู้ปฏิบัติจึงกำชับให้ผู้บังคับบัญชาไปดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจแก่ผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง ว่า คณะทำงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันฯ ได้จัดทำระบบประชาสัมพันธ์ "สื่อไซเบอร์วัคซีน" เพื่อให้ระบบประชาสัมพันธ์สื่อไซเบอร์วัคซีน (pctpr. police.go.th) ​เป็นเครื่องมือกลางระหว่างคณะทำงานฯ กับหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ โดยหน่วยปฏิบัติสามารถดาวน์โหลดสื่อ ที่คณะทำงานฯ ผลิตตามรูปแบบแผนประทุษกรรมของมิจฉาชีพ เพื่อให้หน่วยปฏิบัติ มีสื่อหรือเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ลงถึงชุมชนและท้องถิ่น ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

“ซึ่งการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักรู้เท่าทัน และไม่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นการป้องกันเหตุ อันเป็นงานในหน้าที่ของข้าราชตำรวจและให้ดำเนินการทำแบบประเมินภูมิคุ้มกันตนเองของภาคประชาชนผ่านเกมคำถามผู้พิชิตไซเบอร์วัคซีน เพื่อให้ประชาชนสามารถประเมินตนเองด้วยความสมัครใจ เพื่อประเมินว่ามีความเสี่ยงในการตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีมากน้อยเพียงใด และคณะทำงานฯ ไม่มีการกำหนดเป้าจำนวนครั้งในการประชาสัมพันธ์ และไม่มีการกำหนดเป้าจำนวนประชาชนผู้เข้าทำแบบทดสอบเป็นตัวชี้วัดใดๆ ทั้งสิ้น” วิทยุสั่งการ ระบุ

และกรณีที่กำหนดให้มีการรายงานผลหลังการประชาสัมพันธ์นั้น เป็นหน้าที่ของคณะทำงานฯ ที่จะนำผลมาวิเคราะห์ เพื่อปรับยุทธศาสตร์ในการดำเนินการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ อันเป็นการดำเนินการในการป้องกันเหตุต่อไปรวมถึงการประชาสัมพันธ์ สื่อไซเบอร์วัคซีน เป็นภารกิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายฝ่าย ไม่ใช่กำหนดให้เป็นหน้าที่เฉพาะของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในการดาวน์โหลด

ทั้งนี้ ทุกหน่วยสามารถใช้ข้อมูลจากระบบประชาสัมพันธ์ สื่อไซเบอร์วัคซีนที่คณะทำงานฯ ได้ทำขึ้นไปวิเคราะห์แนวโน้มสถานภาพของคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในพื้นที่ที่ รับผิดชอบเพื่อกำหนดเป็นแผนการปฏิบัติหรือแนวทางการนำสื่อไซเบอร์วัคซีนรูปแบบต่างๆ ไปประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ให้ประชาชนในพื้นที่ชุมชนและท้องถิ่น ให้สอดคล้องกับสถานภาพคดีอาชญากรรรมทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นโดยไม่ต้องให้หน่วยระดับสถานีตำรจ รายงานข้อมูลการนำสื่อไซเบอร์ไปเผยแพร่อีก โดยจะเป็นการลดภาระการรายงานที่ซ้ำซ้อน และควรพิจารณาคัดเลือกข้าราชการที่มีความรู้ และเหมาะสมกับงานแต่ละประเภท เช่นการดาวน์โหลด การประชาสัมพันธ์ และการรายงาน ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงภาระงานในหน้าที่หลักของเจ้าหน้าที่นั้นๆ ด้วย เช่น พนักงานสอบสวน ที่มีสำนวนคดีอาญามากๆ ไม่ควรมอบหมายภารกิจหรือหน้าที่อื่นเพิ่มเติมเพื่อทราบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
กำลังโหลดความคิดเห็น