“ข่าวลึกปมลับ”เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 29 มิถุนายน 2565 ตอน รีแบรนด์ พปชร. ติดหล่ม ‘3 ป.’
ผลพวงจาก ‘นิด้าโพล’ สำรวจบุคคลที่เหมาะนั่ง นายกฯ ชื่อของ ‘อุ๊งอิ๊ง’แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มาเป็นที่ 1 ส่วนชื่อ ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ลำดับที่ 4 เป็นรองตัวเลือกยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ กับเป็นรองชื่อ ‘ทิม’พิธา ลิ้นเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล
แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะสงวนท่าที ทำทีเป็น ‘เมิน’ ผลโพลที่เกิดขึ้น โดยมองว่า โพลก็คือโพล เห็นทำมา 3-4 อัน ก็ไม่ตรงกัน ขอให้สื่อมองให้เป็นธรรม
แต่ในฝั่ง ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กลับแสดงท่าทียอมรับผลโพล โดยเปิดเผยว่าพรรคมีการประเมิน ทราบอยู่แล้วโพลก็ระบุว่า พรรค พปชร. ตกต่ำ แต่ไม่เป็นไร ก็ต้องแก้ไขกันไป
คำตอบของ พล.อ.ประวิตร เหมือนที่เคยกล่าวกับสื่อเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังถามถึงกระแส ‘อุ๊งอิ๊ง’ กับ ‘พรรคเพื่อไทย’ บุกพื้นที่ภาคอีสานตอนใต้ โดย พล.อ.ประวิตร ยอมรับว่า “เราเป็นรองเขาอยู่แล้ว” ซึ่ง ‘เขา’ ในที่นี้ก็คือพรรคเพื่อไทย
ระยะเวลาอีก 8 เดือนจากนี้ ก่อนถึงเลือกตั้งใหญ่ทำให้ พล.อ.ประวิตร ต้องปรับทัพ-รีแบรนด์ พปชร. ขึ้นใหม่ กระจาย ‘ขุนพล’ ดูแลแต่ละภาค ตามฐานที่มั่น ‘บ้านใหญ่’ มอบหมายให้ดูแลเรื่องการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. การจัดทำนโยบายกิจกรรมพื้นที่ พร้อมสั่งจัดโรดโชว์ 7 ภาค เริ่มเดือน ก.ค.นี้ ทั้งนี้
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ และ กทม. โดยมี ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ ประธานยุทธศาสตร์พรรค ช่วยดูแลภาคใต้ และมอบให้ ‘อ.แหม่ม’นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ช่วยดูแลพื้นที่ กทม.
ส่วนพื้นที่ภาคกลาง แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน คือ ภาคกลางตะวันออกและภาคกลางตะวันตก มีรัฐมนตรี 4 คนรับผิดชอบ ประกอบด้วย ‘เสี่ยเฮ้ง’สุชาติ ชมกลิ่น ผู้อำนวยการพรรค ‘เสี่ยโอ๋’ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค ‘เสี่ยแฮ้งค์’อนุชา นาคาศัย กรรมการบริหารพรรค ‘ครูเหน่ง’ตรีนุช เทียนทอง กรรมการบริหารพรรค
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่อีสานใต้ มอบ ‘เฮียยักษ์’วิรัช รัตนเศรษฐ กรรมการบริหาร พรรค รับผิดชอบพื้นที่
อีสานเหนือ มอบให้ ‘บิ๊กอี๊ด’พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร กรรมการบริหารพรรค อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 และ’สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ รองหัวหน้าพรรค รับผิดชอบ ที่สำคัญมีชื่อ ‘บิ๊กแป๊ะ’พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ซึ่งจะพ้นเว้นวรรคการเมือง จากตำแหน่ง ส.ว. ครบ 2 ปี เดือน ต.ค.นี้ มาร่วมด้วย
สำหรับภาคเหนือ มอบหมายให้ ‘สันติ พร้อมพัฒน์’ เลขาธิการพรรค และ ‘นิโรธ สุนทรเลขา’ กรรมการบริหารพรรค รับผิดชอบ
ขณะเดียวกัน พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการให้ ’สันติ’ จัดกิจกรรมโรดโชว์เดินสายพรรคแต่ละภาค โดยใช้ชื่อว่า “พลังประชารัฐ พลังเพื่อชาติไทย” นำร่อง จ.นครราชสีมา จ.มหาสารคาม จ.พิษณุโลก จ.เพชรบูรณ์ จ.สงขลา จ.ชลบุรี จ.เพชรบุรี และพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล
อีเวนต์โรดโชว์เตรียมจัดเวทีแรกที่ศาลากลางจังหวัดชลบุรี 10ก.ค.นี้ เพื่อประชาสัมพันธ์ผลงานของพรรคตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละเวทีจะนำโดย พล.อ.ประวิตร ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่มาร่วมด้วย เพราะเป็นการทำกิจกรรมในนาม พปชร. เท่านั้น
ล่าสุด พล.อ.ประวิตร เข้าประชุม ส.ส. พลังประชารัฐ ประจำสัปดาห์ โดยมีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ได้ทักทายบรรดา ส.ส. ที่มีกระแสข่าว ‘ย้ายพรรค’ หลายคนในลักษณะ ‘พูดดักคอ’ ไว้ก่อน เช่น ‘สมบัติ อำนาคะ’ส.ส.สระบุรี ‘กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา’ ส.ส.กรุงเทพฯ ‘วัชระ ยาวอหะซัน’ ส.ส.นราธิวาส และ ‘ธรรมวิชญ์ โพธิพิพิธ’ ส.ส.กาญจนบุรี
แม้ว่า พล.อ.ประวิตร จะเคยประกาศกวาดที่นั่ง ส.ส. 150 คน ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ได้หวัง ‘แลนด์สไลน์’ แบบพรรคเพื่อไทย แต่ก็ต้องเร่งปรับทัพ พปชร. ไม่เช่นนั้นได้เป็น ‘พรรคต่ำร้อย’ แน่นอน จากผลพวงเอฟเฟกต์ 3-4 ครั้ง จากผลการเลือกตั้งสนาม กทม. ที่ได้คะแนนรวมลดลงจากเดิมเลือกตั้ง ส.ส. ปี 2562 ได้คะแนนรวม 7.9 แสน แต่คะแนนเลือกตั้ง ส.ก. ลดลงเหลือ 2.7 แสนคะแนน แถมเจอกระแสฝ่ายค้าน ‘แลนด์สไลด์’ กวาด ส.ก. กรุงเทพฯ ไปเกินครึ่ง แค่พรรคเพื่อไทย 1 พรรค ก็ปาเข้าไป 20 คนแล้ว
ตามมาด้วยกระแส ‘อุ๊งอิ๊งฟีเวอร์’ ที่ฝ่าย ‘ทักษิณ’ พยายามปลุกขึ้นมา เร่งเดินสายในหลายจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ ‘ภาคอีสาน’ ฐานที่มั่นของพรรคและดึง ‘คนเสื้อแดง’ กลับมา
แถมต้องฝ่ากระแส ‘ชัชชาติฟีเวอร์’ กวาด 1.3 ล้านคะแนน ขึ้นเป็น ผู้ว่าฯกทม. ผ่านมา 1 เดือน หลังเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กระแสไม่มีท่าทีจะแผ่วลง ทำงานก็ถูกนำมาเปรียบเทียบกับ ‘พี่น้อง 3ป.’ อยู่ตลอด เรียกว่าเทียบ ‘รัศมี’ กันรายวัน
จึงทำให้ พล.อ.ประวิตร ต้องวางแผนวางตัว ‘แคนดิเดตนายกฯ’ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วย ซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร ก็ไม่เคย ‘ปิดช่องตัวเอง’ ว่าจะเสนอชื่อแคนดิเดตเพียง 1 คน คือชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จึงถูกมองว่าจะมี ‘ชื่อสำรอง’ ตามมา เพราะชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ถือว่าบอบช้ำทางการเมือง ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘ความนิยม’ ในตัว พล.อ.ประยุทธ์ ลดลง จึงเกิดความเคลื่อนไหวภายใน พปชร. ขึ้น
โดย พล.อ.ประวิตร ต้องรั้งคนที่คิดจะ‘เปลี่ยนโปรย้านค่าย’ ไว้ และหวังพึ่ง ‘พลังบ้านใหญ่’ ในการสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า ส่วนแผนทำ ‘พรรคสำรอง’ ยังคงอยู่ในสภาพ ‘ลุ่มๆดอนๆ’ หลังพรรคเศรษฐกิจไทย ตกเป็นของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า โดยสมบูรณ์ไปแล้ว
ทั้งหมดนี้เป็น ‘กลยุทธ์’ ที่ พล.อ.ประวิตร ในฐานะตัวแทน ‘แผงอำนาจ 3ป.’ ได้เตรียมไว้สู้ศึกใหญ่ ส่วนเรื่องการ ‘รีแบรนด์พรรค’ ก็ติดปมใหญ่คือภาพ ‘3ป.’ เอง ที่แม้จะให้ ‘คุณ’ ทางการเมือง ผ่าน ‘ภาพบารมี’ ในทางอำนาจต่างๆ แต่อีกด้านก็ ‘บอนไซตัวเอง’ เพราะอยู่มานาน 8 ปี หนีไม่พ้นกระแส ‘เบื่อหน่าย’ จากประชาชน ที่ต้องการสิ่งใหม่ๆ
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ในเวลานี้ พปชร. ยังยืนยันหนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็น นายกฯ ต่อไป ส่วนจะ ‘รีแบรนด์-บุกหัวเมือง’ รวมทั้ง ‘เข็น’ พล.อ.ประยุทธ์ ไปได้แค่ไหน ต้องติดตามกันต่อไป !!
-----------------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1