รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน 2565 นำเสนอรายงานพิเศษ เคล็ด(ไม่)ลับ เรือยอชต์ล่าบรูด้า ดูวาฬทะเลแม่กลอง
ปังมากในเวลานี้ เห็นจะเป็นกระแสเรือดูวาฬแม่กลอง ซึ่งมีการนำเรือยอชต์แบบ Catamaran มาบริการลูกค้า เป็นลำแรกของเมืองไทย
จนเป็นข่าวทีวีกระหึ่มเมืองแทบทุกช่อง รวมถึงข่าวออนไลน์แทบทุกสำนัก เนื่องจากเรือลำนี้ พบเจอวาฬบรูด้าแบบไม่มีพลาดเป้า ทั้งที่เป็นเรือหรูที่ดูไม่น่าจะมีความสามารถในการค้นหาวาฬ
ส่งผลให้มีผู้สนใจจองที่นั่งกันแบบถล่มทลาย โดย ณ เวลานี้ ตั๋วขายหมดเกลี้ยงทั้งเดือน มิ.ย. ก.ค. ยัน ส.ค.
ทีมงาน “ถอนหมุดข่าว” ตามไปเจาะลึก ทีมงานดูวาฬแม่กลองเป็นใคร มาจากไหน และมีเคล็ดลับอะไร จนประสบความสำเร็จทั้งชื่อเสียงและธุรกิจได้รวดเร็วขนาดนี้
ทีมงานเล่าว่า พวกเขาเป็นคนรักธรรมชาติ รักทะเล ที่มารวมตัวทำงานด้วยกัน ตามความสามารถที่แตกต่างกันไป มีความเป็นอินดี้ ลงมือทำทุกอย่างเอง เพื่อไล่ตามความฝัน
กัปตันเรือ เป็นนักเล่นเรือยอชต์ ผ่านการเรียนขับเรือจากสถาบันมาตรฐาน สะสมประสบการณ์ในท้องทะเลยาวนาน 30 ปี
เขาเป็นผู้สร้างตำนานวาฬบรูด้า ในฐานะคนถ่ายภาพวาฬบรูด้าได้เป็นคนแรกของเมืองไทย ที่น่านน้ำเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2535 โดยเป็นการดำน้ำตัวเปล่าลงไปถ่ายวาฬอีกต่างหาก
ความสามารถในการบังคับเรืออย่างเดียวคงไม่พอ กัปตันเรือยังเป็นคนมีจิตใจอ่อนโยน จึงยึดคติ “สวัสดิภาพของวาฬต้องมาก่อน” ควบคู่ไปกับสวัสดิภาพของทุกคนบนเรือ
ทีมงานบนเรือจำเป็นต้องมีช่างภาพวาฬประจำการด้วยเสมอ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ จะมีแค่กล้องจากโทรศัพท์มือถือ
ซึ่งช่างภาพของเรือลำนี้ เป็นช่างภาพสัตว์ป่าชื่อดัง แล้วไม่วายเคยร่วมสร้างตำนานวาฬบรูด้าด้วย เพราะเขาอยู่ในทีมช่างภาพที่ถ่ายวาฬบรูด้าบนเรือได้เป็นภาพแรกของไทย เมื่อปี 2544 ที่ทะเลประจวบฯ
นอกจากเป็นช่างภาพ เขายังเป็นหัวหน้าทัวร์ รับผิดชอบการประชาสัมพันธ์ ประสานงานลูกค้า และบรรยายบนเรือ ให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวาฬบรูด้า
ไม่แค่ภาพนิ่ง เขาต้องถ่ายคลิปวาฬและบรรยากาศบนเรือด้วย เพราะปัจจุบัน เป็นยุคของคลิป
องค์ประกอบสำคัญที่จะขาดมิได้ ต้องมีแมวมองหาวาฬที่มีสายตาอันคมกริบ ซึ่งเรือดูวาฬแม่กลอง ถึงขั้น นำเข้าแมวมองมาจากภูเก็ต เขาเป็นไกด์หนุ่มทางทะเล ที่มีความสามารถรอบด้าน แต่ไม่เคยเห็นวาฬบรูด้ามาก่อน
แค่ได้รับการเทรนด์นิดๆ หน่อยๆ แมวมองจากอันดามันก็โชว์ศักยภาพความเป็นมนุษย์ตาเหยี่ยว สามารถเห็นความเคลื่อนไหวของวาฬได้จากระยะไกลลิบ อันส่งผลโดยตรงต่อเปอร์เซนต์ความสำเร็จ พบเจอวาฬเป็นว่าเล่น
“อิมรอน” แมวมองวาฬคนเก่ง เล่าว่า ทะเลอันดามันบ้านเขา น้ำใสแจ๋ว ลึก 10 เมตรก็อาจมองทะลุถึงพื้นได้ ส่วนน้ำทะเลที่อ่าวไทยตอนบนนี่ ขุ่นคลั่กไม่สวยงาม แต่ช่างน่าอัศจรรย์ ที่มีสัตว์งดงามน่าทึ่งอย่างวาฬบรูด้าอาศัยอยู่
พฤติกรรมอ้าปากกินเหยื่อของวาฬบรูด้า เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ซึ่งอิมรอน บอกว่า เขาสามารถดูได้ทุกวันไม่รู้เบื่อ
การเลือกจัดทริปเฉพาะไฮซีซั่นของวาฬบรูด้า คือ เดือน พ.ค. - ต.ค. ก็เป็นอีกกุญแจสำคัญ
เรือดูวาฬแม่กลอง ยังจัดหาของดีเด่นดังในพื้นที่ มาให้ลูกค้า ไม่ว่าจะอาหารจาก "ร้านคุ้นลิ้นปากอ่าว" "เบอร์เกอร์ปลาทูไทย" "วุ้นเป็ดธนัน" แม้แต่น้ำดื่มท้องถิ่นสมุทรสงคราม ที่ผ่าน อย.
ทัวร์ที่จับกลุ่มไฮเอนด์เช่นนี้ จำต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจท่องเที่ยว รวมถึงการประกันภัยที่มีวงเงินคุ้มครองสูงถึงรายละ 1 ล้านบาท
หากตรวจพบคลื่นลมแรงในวันเดินทาง จะขอเลื่อนทริปทันที เพื่อความปลอดภัยและสนุกของลูกค้า
เหนือสิ่งอื่นใด ตัวชี้ขาดจริงๆ ก็คือ เรือ Catamaran ซึ่งลูกค้าบางคนให้นิยามว่า “มิติใหม่ของการดูวาฬ”
การใช้ชีวิตกลางทะเลนาน 8 ชั่วโมงบนเรือสวยๆ เต็มไปด้วยฟังก์ชั่นใช้สอยมาตรฐานเรือยอชต์ คือความฟินความประทับใจของลูกค้า
หากเปรียบเรือเป็นดั่ง “ฮาร์ดแวร์” ที่มีครบทั้งความหรูความปลอดภัย เมื่อได้ “ซอฟต์แวร์” ดีๆ คือทีมงานที่เก๋าและเก่ง มาประกบเข้าด้วยกัน
เนื่องจากกิจกรรมดูวาฬเป็นของใหม่ของเมืองสมุทรสงคราม จึงกลายเป็นจุดสนใจ ถึงขนาด นายกอบจ.สมุทรสงคราม ยกคณะ ลงไปสัมผัสเรือและการดูวาฬมาแล้ว
ก่อนประกาศบนเรือเลยว่า จะผลักดันให้การดูวาฬ เป็นไฮไลท์ใหม่ของการท่องเที่ยวแม่กลอง
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1