ซ้อนแผนจับนักข่าวผี สวมรอย “โจรเทือกเขาบรรทัด” เรียกเก็บค่าคุ้มครองเสี่ยบ่อดิน

MGR Online - กองปราบซ้อนแผนจับนักข่าวผีสวมรอย“แก๊งโจรเทือกเขาบรรทัด” ส่งจดหมายเรียกเก็บค่าคุ้มครองเสี่ยบ่อดิน เมืองตรัง 1.5 ล้าน แลกความปลอดภัยคนในครอบครัว

วันนี้ (16 มิ.ย.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป.พ.ต.ต.สวรรยา เอียดตรง สว.กก.6 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.6 บก.ป. สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จ.ตรัง และ สภ.เมืองตรัง วางแผนจับกุมแก๊งข่มขู่กรรโชกทรัพย์ สามารถจับกุมตัว นายวีรวัฒน์ คงสุทรู้ อายุ 40 ปี นายสันตินนท์ ศรีจันทร์ อายุ 30 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนจำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนจำนวนหนึ่ง บัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวนิตยสารตำรวจ และ บัตรประจำตัวองค์กรอิสระตรวจสอบภาครัฐ รวมถึงเงินสดของกลางอีกจำนวนหนึ่ง โดยจับกุมนายวีรวัฒน์ ได้ที่ริมถนนในพื้นที่ ต.นาท่ามเหนือ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง ส่วนนายสันตินนท์ จับกุมตัวได้ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.เมือง จ.ตรัง

ทั้งนี้ ได้มี นายเอ (นามสมมติ) ผู้เสียหายรายหนึ่ง ประกอบธุรกิจขุดบ่อดิน บ่อทราย เข้าร้องขอความช่วยเหลือ หลังจากมีจดหมายลึกลับ อ้างตัวเป็นขบวนการเรียกค่าคุ้มครองเทือกเขาบรรทัด ส่งมาที่บ้านพัก โดยเนื้อหาในจดหมายดังกล่าวมีใจความข่มขู่เรียกเงินจำนวน 1.5 ล้านบาท เพื่อแลกกับความปลอดภัยของคนในครอบครัว พร้อมกับแนบรูปภาพแอบถ่ายบุคคลในครอบครัวขณะออกไปทำกิจกรรมต่างๆ หรือใช้ชีวิตประจำวันนอกบ้าน เพื่อสื่อให้เห็นว่ามีการส่งคนไปเฝ้าสะกดรอยติดตามทุกความเคลื่อนไหว หากไม่ทำตามจะทำอันตรายถึงแก่ชีวิต ผู้เสียหายจึงเกิดความหวาดกลัวเกรงว่าคนในครอบครัวจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิต

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงร่วมกันวางแผน ให้ผู้เสียหายนำเงินไปส่งมอบให้กลุ่มผู้ต้องหา พร้อมกับกระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จากนั้นไม่นานก็ได้มี นายสันตินนท์ ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามารับเงิน ก่อนนำไปส่งต่อให้กับ นายวีรวัฒน์ ที่นั่งรออยู่ในรถยนต์จอดอยู่ไม่ไกลกันกับจุดส่งมอบเงิน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวจับกุม นายวีรวัฒน์ พร้อมกับเงินสดของกลาง ส่วนนายสันตินนท์ ระหว่างนั้นเกิดไหวตัวทันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสามารถตามจับกุมได้ที่บ้านพัก จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายวีรวัฒน์ เข้าตรวจค้นภายในบ้านพักก่อนพบอาวุธปืน 1 กระบอก พร้อมกับบัตรประจำตัวผู้สื่อข่าวนิตยสารตำรวจ และ บัตรประจำตัวองค์กรอิสระตรวจสอบภาครัฐ อีกจำนวนหนึ่งจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองรายให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุ นายบ่าว (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ผู้ร่วมก่อเหตุอีกราย ได้มาบอกผู้ต้องหาทั้งสองว่า ผู้เสียหายรายนี้เป็นคนมีฐานะ มีธุรกิจขุดบ่อดินบ่อทรายใหญ่โตในพื้นที่ จ.ตรัง จึงร่วมกันวางแผนเขียนจดหมายไปข่มขู่เพื่อจะเอาเงินมาใช้เที่ยวเตร่ และใช้หนี้สิน โดยมี นายวีรวัฒน์ เป็นหัวหน้าขบวนการคิดแผนการต่างๆ เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “กรรโชกทรัพย์” ก่อนนำตัวส่ง สภ.เมืองตรัง ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับเตรียมขยายผลตามจับกุมตัวนายบ่าว ผู้ร่วมก่อเหตุอีกรายที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนีต่อไป