รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2565 นำเสนอรายงานพิเศษ คาใจ ชัชชาติหยุดโกง กทม.ทำได้จริงไหม?
ไม่ว่าใครก็ตามที่ชนะเลือกตั้งมาแบบถล่มทลาย พอพ้นช่วงเวลาฮันนีมูนไปแล้ว คราวนี้ก็จะเป็นเรื่องชีวิตจริงที่มันไม่ง่าย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกทม. ก็หนีไม่พ้นกฎธรรมชาตินี้
เอาแค่ปัญหาการจราจรติดขัด ก็เป็นโจทย์โหดหินที่ไม่เคยมีอัศวินม้าขาวที่ไหน จะเอาชนะได้เลย แม้แต่คนเดียว
แต่ความท้าทายมากกว่านั้น คือการบริหารราชการให้กทม.ให้มีความโปร่งใส ปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น อาจเป็นโจทย์โหดหินเสียยิ่งกว่าเรื่องใด
เพราะสารพัดหน่วยงานของ กทม. มีอำนาจในมือแบบแตะตรงไหนก็เป็นเงินเป็นทอง ตั้งแต่เรื่องทางเท้า ขยะ อาคาร ยันอาบอบนวด
ระบบเก่าๆ วางไว้หมดแล้วนานแล้ว ให้เป็นระบบใต้โต๊ะ รวมถึงระบบส่งส่วย ผ่านทางใบอนุญาตต่างๆ เรียกว่ามีช่องทางหาเงิน เสียมากกว่าองค์กรตำรวจด้วยซ้ำ
“ชัชชาติ” ประกาศกับสื่อไปแล้ว จนกลายเป็นคำพาดหัว “ผมจะไม่ทนกับการทุจริต” “ส่วยเทศกิจต้องเป็นศูนย์”
กรุงเทพฯ จะเป็นเมืองน่าอยู่ได้ ต้องบริหารตามแนวคิด “โปร่งใส ไม่ส่วย ไม่เส้น” ท่านผู้ว่าฯ ย้ำเรื่องนี้
พร้อมจะเปิดศึกกับข้าราชการขี้ฉ้อ ทั้งระดับผู้บริหารและผู้ปฏิบัติการ จัดการวางระบบใหม่ในการติดตามการขออนุญาตต่างๆ ไม่ให้เป็นช่องทางรีดไถประชาชน
จะเห็นว่า ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ทำการบ้านมาดี รู้จริงถึงปัญหาหมักหมมภายในกทม. คำประกาศทำสงครามกับการทุจริตดังกล่าว ย่อมได้ใจเหล่า FC และคนกรุงทั่วไปอย่างไม่ต้องสงสัย
ไม่ใช่แค่พูด นายชัชชาติยังใส่เกียร์เดินหน้าเรื่องนี้ โดยไปทำข้อตกลงคุณธรรมเรียบร้อยแล้วกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นต่างๆ เพื่อยืนยันว่าพี่ไม่ได้มาเล่นๆ
ทั้งที่จริงๆ แล้ว บรรดาคนที่หย่อนบัตรเลือกท่านมา น่าจะโฟกัสไปที่ภาพคนเก่ง รอบรู้ มีวิสัยทัศน์
ขณะที่คุณสมบัติต้านโกง ไม่เคยเป็นจุดแข็งเลยของนายชัชชาติ แต่นายชัชชาติก็วางบทบาทใหม่ของตัวเองในเรื่องนี้แบบเปรี้ยงปร้าง
ที่ว่าไม่มีจุดแข็งเรื่องต้านโกง เพราะผลงานในอดีตสมัยนั่งในรัฐบาล ก็เคยก่อเครื่องหมายคำถามมาแล้วในด้านจุดยืน
ขณะที่การเดินหน้าบริหารกทม. ให้ปลอดการทุจริต กำลังเดินหน้าไป แต่ “กรรมเก่า” ของนายชัชชาติก็ยังตามมาหลอกหลอน
โดย ณ เวลานี้ นายชัชชาติโดนร้องเรียนเรื่องเก่า สมัยเป็นวิศวกรที่ปรึกษาของสถาบันทรัพย์สินทางปัญญา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วเข้าไปมีบทบาทในสนามบินสุวรรณภูมิ ในการประเมินมูลค่าต่างๆ ที่ไม่ตรงความจริง
การสอบสวนมาอยู่ในมือของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาผู้แทนราษฎร เรียบร้อยแล้ว
มากกว่านั้น ดร.มานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ได้เขียนบทความถึงผู้ว่าฯ ชัชชาติ ชื่อเรื่องว่า “หวังมากแค่ไหนกับผู้ว่าฯ ชัชชาติ”
ซึ่งความระหว่างบรรทัดของบทความนี้ ดูแล้วน่าไม่ไว้วางใจในตัวชัชชาติ
ดร.มานะ ชี้ตอนหนึ่งว่า กลไกราชการและข้อกฎหมายของ กทม. ทำให้เกิดหลุมดำของคอร์รัปชันที่ยากเกินกว่าใครจะหักหาญเอาชนะได้
หากการคดโกงในการ “จัดซื้อจัดจ้าง” ลดน้อยลงสักครึ่งหนึ่ง เราจะประหยัดเงินนับหมื่นล้านบาท
หากการ “รีดไถ – ส่วยสินบน – เรียกรับเงินใต้โต๊ะ” ลดลงสักครึ่งหนึ่ง สังคมจะเป็นสุขมากขึ้น
หากแก้ไขการ “บริหารจัดการสัมปทานและบริการเชิงธุรกิจ” ในมือของ กทม. ให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น เราจะได้บริการที่ดีจากรัฐในราคาเอื้อมถึงสำหรับทุกคน
ดร.มานะชี้ว่า คณะของท่านผู้ว่าฯ ต้องพิสูจน์ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนใน กทม. มั่นใจว่า ท่านซื่อสัตย์ โปร่งใส ตรงไปตรงมาเพื่อส่วนรวม
หากผู้แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี ทำได้สำเร็จจริงตามความหวังเหล่านี้ขององค์กรต้านคอร์รัปชั่น
ดร.มานะเชื่อว่า ผลงานนี้ จะเป็นต้นแบบการต่อต้านคอร์รัปชันของประเทศเลยทีเดียว
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1