พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน คุมตัวหนุ่มวิน จยย.รับจ้างใช้มีดจี้คอพยายามฉุดนักเรียนหญิงวัย 16 ปี ไปฝากขัง โดนแจ้งเพิ่มข้อหาพรากผู้เยาว์ รวมเป็น 3 ข้อหา
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่ สน.คลองตัน พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน นำตัว นายสมศักดิ์ วินจักรยานยนต์รับจ้าง ผู้ต้องหาใช้มีดคัตเตอร์จี้นักเรียนหญิง อายุ 16 ปี ฝากขังอาญากรุงเทพใต้ โดย พ.ต.ท.นิรันดร์ โสมะคุณานนท์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.คลองตัน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา พาตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยผู้ต้องหายืนยันจุดที่ทิ้งโทรศัพท์มือถือผู้เสียหาย แต่ยังไม่พบของกลาง
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา พรากผู้เยาว์เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปโดยไม่มีเหตุอันควร เพิ่มเติมอีกข้อหา รวมกับ 2 ข้อหาแรกที่แจ้งไปก่อนหน้าเป็น 3 ข้อหา ก่อนคุมตัวผู้ต้องหาขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขัง ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อศาลรับฝากขังก็จะนำตัวไปส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯทันที
นอกจากนี้ บิดาของนายสมศักดิ์ ได้มาเยี่ยมลูกชายและพบพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า พยายามสอบถามลูกว่า ก่อเหตุไปเพราะอะไร ลูกชายไม่ตอบอะไร ได้แต่เงียบ พูดเพียงว่าเป็นห่วงลูกทั้ง 3 คน อยากฝากให้ตนดูแลพาไปอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี ยังไม่รู้ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับหลานทั้ง 3 คน
ส่วนตัวก็มีภาระหลายอย่าง รายได้จากอาชีพรักษาความปลอดภัยเดือนละ 15,000 บาท มีรายจ่ายที่ค่อนข้างเยอะ ประกอบกับเป็นห่วงหลานทั้ง 3 คน หากไม่มีคนดูแลใกล้ชิด อาจทำให้เสียอนาคต เนื่องจากหลานชายคนโตอยู่ในช่วงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ และละแวกบ้านก็เป็นที่รู้กันว่ามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด อีกทั้งตนทำงานเป็นกะ ทั้งกลางวันและกลางคืน ผลัดเปลี่ยนกันทุก 15 วัน ไม่มีเวลาดูแลหลานทั้ง 3 คน ได้อย่างที่ควร
บิดาของ นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทราบว่า หลานทั้ง 3 คน มีพี่สาวต่างพ่อมารับไปอยู่ในการดูแลของแม่อดีตภรรยาลูกชายตน จะขอดำเนินการจัดการเรื่องลูกชายให้เสร็จสิ้นก่อน จึงจะไปดำเนินการเกี่ยวกับหลาน
เบื้องต้นหลังเกิดเรื่อง มีนักสังคมสงเคราะห์เข้ามาพูดคุย เกี่ยวกับการขอรับการดูแลหลาน ตนพร้อมหากหลานทั้ง 3 คน จะได้รับสิ่งที่ดีกว่า ทั้งเรื่องการเรียนและการเป็นอยู่ แต่หากว่าทางครอบครัวอดีตภรรยาลูกชาย จะติดต่อมาเพื่อขอดูแลหลาน ตนยืนยันว่าจะขอดูแลหลานทั้ง 3 คนเอง เนื่องจากอดีตลูกสะใภ้เลิกรากันไปนานหลายปี และหลานก็เติบโตมากับตน
ทั้งนี้ อยากขอชี้แจงเกี่ยวกับเสื้อวินรถจักรยานยนต์ที่ลูกชายใส่ ว่า เสื้อดังกล่าวเป็นของตนที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่เห็นว่าก่อนหน้านี้ลูกชายเพิ่งพ้นโทษ และไม่มีงานทำ ต้องเลี้ยงดูลูก 3 คน และหาค่าเช่าห้อง ประกอบกับตนเปลี่ยนอาชีพจึงส่งต่อให้ลูกชาย ไม่ได้เป็นการขายเสื้อวินตามที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ส่วนตัวยอมรับว่า การส่งต่อเสื้อวินให้กับลูกชายอาจจะมีความผิด ซึ่งก็พร้อมยอมรับกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เคลื่อนย้ายตัวนายสมศักดิ์ ขึ้นรถผู้ต้องขังไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ บิดานายสมศักดิ์สังเกตเห็นลูกชายไม่มีรองเท้าสวมใส่ จึงถอดรองเท้าแตะที่ตัวเองใส่อยู่มาส่งให้กับลูกชายในรถคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมสั่งเสีย รวมถึงส่งเงินจำนวนหนึ่งให้ลูกชายติดตัวไปใช้ในเรือนจำอีกด้วย