รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 8 มิถุนายน 2565 นำเสนอรายงานพิเศษ ความจริงหวย 30 ล้าน มีแจ้งเกิด มีคนดับ ครูปรีชาขาแหย่คุก
“ความจริง ก็คือ ความจริง” ความจริง ก็คือ หวย 30 ล้าน ไม่ใช่ของ “ครูปรีชา” นายปรีชา ใคร่ครวญ อย่างแน่นอนแล้ว เพราะศาลชี้ขาดให้ครูปรีชาแพ้ครบทั้ง 3 ศาล
เป็นที่ยุติว่าเจ้าของหวยตัวจริง คือ “หมวดจรูญ” ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ซึ่งจากนี้ หมวดจรูญก็จะนำผลจากคำพิพากษาในชั้นศาลฎีกา ไปเช็กบิลครูปรีชาต่อ ในคดีอื่นๆ ที่แตกแขนงออกมาเพียบจากคดีหลัก
มหากาพย์ชิงลอตเตอรี่ หมายเลข 533726 งวดวันที่ 1 พ.ย. 2560 อันอื้อฉาวนี้ คนพ่ายแพ้จะไม่ใช่แค่ไม่ได้เงิน 30 ล้าน แต่จะได้คุกเป็นของแถมด้วย
ตอนนี้ต้องบอกว่าครูปรีชา และบรรดา “สามเจ๊” คือ เจ๊เกียว เจ๊บ้าบิ่น และเจ๊พัช ที่ร่วมกันให้การช่วยครูปรีชา อยู่ในสภาพขาแหย่คุกไปข้างนึงแล้ว
แต่มาถึงขั้นนี้แล้ว ครูปรีชาก็ยังไม่จ๋อย กลับประกาศลุยฟ้องแพ่งต่อ อ้างว่าจะพิสูจน์ให้ได้ว่าตัวเองเป็นเจ้าของหวย โดยไม่สนใจจะถูกสังคมตราหน้า คนอะไรจะดันทุรังขนาดนั้น
เมื่อย้อนกลับไปมองเรื่องราวคดีหวยอลเวงนี้ จะพบว่ามีคนแจ้งเกิด มีคนดับ มีวาทะคำคม ตลอดจนมีการเปิดแผลกระบวนการยุติธรรมไทย
ถ้าไม่มีกองปราบปราม เข้ามาคานอำนาจ จะไม่มีคำพิพากษาศาลฎีกาออกมาเช่นนี้ เนื่องจากตำรวจกาญจนบุรี และตำรวจภูธรภาค 7 ทำสำนวนออกมาว่า ครูปรีชาเป็นเจ้าของหวย และหมวดจรูญ เป็นผู้ร้ายยักยอกหวย
เท่ากับหมวดจรูญต้องสูญเสียเงินรางวัล 30 ล้าน และยังต้องติดคุกตอนแก่อีกต่างหาก
แต่การสอบสวนของกองปราบฯ ผลกลับออกมาเป็นตรงข้าม 180 องศากันเลยทีเดียว กลายเป็นว่าหวยเป็นของหมวดจรูญ
ตำรวจภูธรภาค 7 ที่โป๊ะแตกเต็มๆ อ้างความสุจริตว่า ในเมื่อพยานมากมาย แห่มาให้การยืนยันว่าหวยเป็นของครูปรีชา สำนวนก็เลยออกมาตามนั้น
แต่กองปราบฯ ได้สอนมวยให้รู้ว่าไผเป็นไผ ใครเป็นกองปราบฯ ใครเป็นภูธร
เพราะแค่สืบด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งศาลให้น้ำหนักความเชื่อถือมากกว่าลิ้นคนที่ตวัดได้ยาว ก็พบว่าครูปรีชาไม่ใช่เจ้าของหวยแน่นอน
คลิปเสียงคุยกันทางโทรศัพท์ ระหว่างครูปรีชากับเจ๊บ้าบิ่น มันชัดยิ่งกว่าชัดว่า ครูปรีชาไม่ได้ซื้อหวย 533726
มากกว่านั้น สัญญาณมือถือของครูปรีชา ก็ไม่ได้เฉียดกรายเข้าไปแถวแผงขายหวย ตามวันเวลาที่เจ้าตัวอ้าง
เอาเข้าจริง ตำรวจกาญจนบุรีและภูธรภาค 7 ส่อเค้าจะมีคนทุจริตต่อหน้าที่ เข้าร่วมขบวนการขอเอี่ยวส่วนแบ่งจากเงิน 30 ล้าน
จากคำให้การของร้อยเวรตงฉิน ซัดทอดว่า ผบก.กาญจนบุรี เรียกสำนวนคดีไปดูบ่อย แถมสั่งการด้วยคำว่า “เกลาให้มันกลม”
แปลว่า ต้องทำสำนวนให้คำให้การของเจ๊ๆ ทั้งหลาย สอดคล้องกลมกลืน สอดรับกัน จนไม่มีช่องโหว่
ด้วยเหตุนี้ พวกเจ๊จึงมีโอกาสขอแก้คำให้การกันหลายหน จนเรื่องราวออกมาโคตรเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
ครูปรีชาเองเหมือนรู้ไพ่เหนือในมือตัวเอง จึงปล่อยวาทะโลกไม่ลืมออกมาว่า “ความจริง ก็คือ ความจริง”
แต่ในมุมมองของศาล กลับเห็นว่าการพยายามแก้สำนวน “เกลาให้มันกลม” ก็คือพิรุธทางคดี ที่เป็นผลเสียต่อครูปรีชาในที่สุด
ขณะที่ ผบก.กาญจนบุรี ก็สังเวยเก้าอี้และชื่อเสียงตัวเอง โดนเด้งเข้ากรุ เพื่อเปิดทางให้กองปราบฯ ทำคดีอย่างไร้อุปสรรค
มีคนดับ ก็มีคนแจ้งเกิด เขาคือ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เริ่มสร้างชื่อเสียงขึ้นมาจากคดีนี้นี่เอง เพราะเขาช่วย “มวยรอง” ที่เกือบโดนน็อกรอมร่อ จนกลับมาพลิกชนะได้
ที่สำคัญกว่านั้น คือทนายตั้มช่วยถูกคน ไม่ได้ช่วยผิดคนอย่าง “ธิดาวานร”
ความเฉียบของทนายตั้มอีกอย่าง คือการคุมรูปมวยให้หมวดจรูญ ให้ออกหมัดอย่างรัดกุม โดนยิงคำถามอะไรที่ตัวเองไม่ชัวร์ ก็แค่ตอบปัดว่า “ไม่รู้” “จำไม่ได้” ภาพก็ออกมาดูดีกว่าคนที่โกหกพัลวัน ลิ้นพันคอตัวเอง
คดีหวย 30 ล้าน ยังเผยให้เห็นว่าคนเป็นครู ก็เป็นคนคลั่งไคล้บ้าหวยอย่างหนักได้ ถึงขนาดทุ่มเงินแทงหวยแต่ละงวด มากกว่าเงินเดือนที่ตัวเองได้รับ ไม่แคร์ภาพลักษณ์ “แม่พิมพ์ของชาติ”
ธาตุแท้ของคนที่กล้าได้กล้าเสียมาทั้งชีวิต เมื่อมีเดิมพันเป็นเงินก้อนโตถึง 30 ล้าน ที่ใกล้จะเอื้อมถึงรอมร่อ เขาจึงกล้าเสี่ยงแบบ “คุกเป็นคุก เจ๊งเป็นเจ๊ง” ดูแล้วปลายทางก็คงหนีไม่พ้น
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1
