“ธนาธร” มาศาลนัดตรวจหลักฐาน คดีไลฟ์สดวิจารณ์รัฐบาลจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ล่าช้า พาดพิงสถาบันเบื้องสูง เจ้าตัวไม่กังวล มั่นใจสู้คดีได้ แต่กังวลเรื่องการใช้มาตรา 112 ในภาพรวมมากกว่า เพราะมีการใช้หยุดการวิพากษ์วิจารณ์ของคนต่อต้าน
วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลตรวจหลักฐานคดีดำ อ.875/2565 ที่อัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้อง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มก้าวหน้า จำเลย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
กรณีเมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2564 จำเลยได้ไลฟ์เฟซบุ๊กหัวข้อเกี่ยวกับวัคซีนป้องกัน COVID-19 บนเพจคณะก้าวหน้า และเพจส่วนตัว ซึ่งมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การจัดหาวัคซีน COVID-19 ของรัฐบาล ที่มีความล่าช้าและมีเนื้อหาพาดพิงสถาบันฯ
ซึ่ง นายธนาธร เดินทางมาพร้อม นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ
นายธนาธร เปิดเผยก่อนขึ้นห้องพิจารณาคดีว่า วันนี้นัดตรวจพยานหลักฐาน ตนไม่มีข้อกังวลใจใดๆ ส่วนเรื่องการเตรียมพยานหลักฐานให้เป็นหน้าที่ของทางทีมทนายความ แต่ตนมีความกังวลใจเกี่ยวกับการใช้มาตรา 112 ในภาพรวมมากกว่าเพราะตนเชื่อว่า การใช้มาตรา 112 ในปัจจุบันมีความต้องการใช้มาตรานี้เพื่อหยุดการวิพากษ์วิจารณ์ของคนที่ต่อต้าน คนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล เราจะเห็นได้ว่ามีประชาชนจำนวนมากที่ถูกฟ้องในคดีการเมือง ไม่ว่าจะเป็นคดี 112 คดี 116 หรือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน และทั้งหมดก็เป็นไปเพื่อการรักษาอำนาจของนายกฯ ที่ต้องแลกด้วยสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกโดยการรวมตัวตนเห็นว่านี่เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้ เมื่อถึงเวลานัด ศาลจึงอ่านและอธิบายฟ้องให้นายธนาธร จำเลยฟังแล้ว จำเลยให้การปฏิเสธ
โดยรับว่า เป็นเจ้าของบัญชีโปรแกรมเฟซบุ๊กตามฟ้องจริง แต่ข้อความที่โจทก์ระบุในคำฟ้องไม่ตรงตามที่จำเลยเผยแพร่ในเฟซบุ๊กทั้งหมดและข้อความที่เผยแพร่ไม่เป็นความผิด
จากนั้นอัยการโจทก์แถลงประสงค์อ้างพยานเอกสารรวม 27 ฉบับ และพยานวัตถุ 4 ชิ้น ศาลให้อีกฝ่ายตรวจดูแล้ว
ทนายจำเลยแถลงว่า ไม่มีพยานเอกสารส่งต่อศาลในวันนี้ ขออนุญาตส่งต่อศาลภายใน 1 เดือน
อัยการโจทก์ แถลงว่า ประสงค์จะสืบพยานบุคคล จำนวน 42 อันดับ ซึ่งเป็นพยานกลุ่มผู้พบเห็นการเผยแพร่ข้อความทางบัญชีเฟซบุ๊กของจำเลย กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่จะอธิบายว่าข้อความที่จำเลยเผยแพร่เป็นความผิดตามฟ้อง กลุ่มเจ้าพนักงานตำรวจผู้สืบสวน กลุ่มที่รู้เห็นเกี่ยวกับวัคซีน และกลุ่มพนักงานสอบสวน ซึ่งจำเป็นจะต้องนำเข้าสืบทุกปากใช้เวลา 5 นัด
ทนายจำเลย แถลงว่า จะสืบพยานจำนวน 12 ปาก ซึ่งเป็นพยานเกี่ยวกับประเด็นว่าจำเลยเป็นผู้เผยแพร่ข้อความในบัญชีเฟซบุ๊กตามฟ้องหรือไม่ เป็นพยานผู้เชี่ยวชาญ พยานที่รู้เห็นเกี่ยวกับบริษัท สยามไบโอไซแอนซ์ จำกัด และกลุ่มเจ้าพนักงาน สาธารณสุข ขอใช้เวลา 3 นัด
ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตให้นัดสืบพยานโจทก์จำนวน 5 นัด และสืบพยานจำเลย 3 นัด