รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน 2565 นำเสนอรายงานพิเศษ ชัชชาติแกร่ง แต่มีรอยด่าง ตั้งมือปั่นหุ้นร่วมทีม
แค่รับตำแหน่งวันแรก แค่เปิดตัวทีมงานของผู้ว่าราชการกทม.ออกมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็เจอปัญหาในทันที
ตัวนายชัชชาติเอง อาจจะแข็งแกร่งที่สุดในปฐพี จนพี่ศรี นายศรีสุวรรณ จรรยา ร้องอะไรไปก็ไม่ระคายผิว
แต่ทีมงานบางคนของนายชัชชาติ อาจจะไม่แข็งแกร่ง หรือเรียกว่า เป็นจุดอ่อนเล็กๆ ที่ผุดมา ท่ามกลางความแข็งแกร่ง
หลังจากประกาศตัวทีมงานผู้ว่าฯชัชชาติ ตั้งแต่รองผผู้ว่าฯ ลงมาถึงทีมงานเลขานุการ มีการโฟกัสไปที่ชื่อ น.ส.ศนิ จิวจินดา ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯ กทม. ว่าทำไมมีชื่อของเธอโผล่แจม ทั้งที่พฤติกรรมในอดีต ต้องถือว่ามัวหมองมีมลทิน
เพราะเธอเป็นนักปั่นหุ้น ที่ถูกจับได้ไล่ทัน มีความผิดชัดเจน ถูกลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว
กลายเป็นรอยกระดำกระด่าง ราวกับขี้สนิมบนผิวเหล็กกล้า และเกิดเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบว่า คนๆ นี้ How Come มาได้ยังไง?
ใครส่ง น.ส.ศนิ จิวจินดา มาอยู่ตรงนี้? มีภารกิจแท้จริงอย่างไรกันแน่?
การขุดประวัติสีเทาของ น.ส.ศนิ จิวจินดา ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เพราะมันเป็นข่าวออนไลน์ของหลายสำนักข่าวอยู่แล้ว กูเกิ้ลคลิกเดียว เนื้อข่าวก็ไหลมา
โดยเว็บไซต์ของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ออกเอกสารข่าวเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2564 ฉบับที่ 58/2564 เรื่องการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำผิด 13 ราย
ร่วมกันสร้างราคาหุ้นบริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน) หรือ KIAT ซึ่งผู้กระทำผิดทั้งหมด ถูกเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่ง เป็นเงินถึง 291,175,810 บาท
ผู้กระทำผิด 13 คน แบ่งหน้าที่กันในการปั่นหุ้น KIAT โดยในส่วนของ น.ส.ศนิ จิวจินดา ร่วมกับพวกอีก 3 คน ทำหน้าที่ซื้อขายหุ้น เพื่อดันราคาให้ปรับตัวสูงขึ้น
ร่วมด้วยช่วยกันปั่นๆๆๆ จนในที่สุด หุ้น KIAT ที่มีราคา 7.75 บาท ก็พุ่งขึ้นไปเป็นราคา 15.60 บาท หรือเกินจริงเป็นเท่าตัว
ทำเงินอู้ฟู่ในหมู่ผู้ร่วมขบวนการ ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันล้าน แต่ ก.ล.ต. ตีราคาเป็นค่าปรับที่ 291 ล้านบาทเศษ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 4 - 22 ธันวาคม ปี 2557 โน่น แต่เอกสารข่าว ก.ล.ต. เพิ่งนำมาเผยแพร่เมื่อปี 2564 หรือปีที่แล้วนี่เอง ข่าวนี้จึงไม่ใช่ข่าวเก่าฝุ่นจับแต่อย่างใด
สวนทางกับประวัติมัวหมองเรื่องปั่นหุ้น น.ส.ศนิ จิวจินดา ก็มีโปรไฟล์ที่หรูหราไม่ธรรมดา จบปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรตินิยมอันดับ 2
จบปริญญาโทนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ และมหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจ ตั้งอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ทั้งสองสถาบัน
เคยทำงานกับพรรคเพื่อไทย เป็นผู้จัดการสถาบันเยาวชนเพื่อไทย ด้วยแนวคิด “เพราะโลกนี้ไม่ได้มีแค่ผู้ใหญ่”
เพราะฉะนั้น ที่ข่าวระบุว่า ผู้ว่าฯ ชัชชาติ มีทีมงานที่เต็มไปด้วย “จุฬาฯ คอนเนกชั่น” กับ “เพื่อไทยคอนเนกชั่น” นั้น น.ส.ศนิ จิวจินดา จึงถือว่าพิเศษกว่าใคร เพราะกางขาคร่อมครบ ทั้ง 2 คอนเนกชั่น
ความจริงแล้ว นายชัชชาติไม่ได้มีแต่คอนเนกชั่นจากจุฬาฯ และพรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่ยังมีคอนเนกชั่นที่สามด้วย คือ “เทพศิรินทร์คอนเนกชั่น” ทั้งที่นายชัชชาติเอง ไม่ได้เรียนเทพศิรินทร์ แต่เรียนสาธิตจุฬาฯ
เริ่มจากประธานที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. นายต่อศักดิ์ โชติมงคล เรียนเทพศิรินทร์ รุ่น 14-16
พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. เทพศิรินทร์ รุ่น 13-15, พล.อ.ท.นพ.อนุตตร จิตตินันทน์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ กทม. เทพศิรินทร์ รุ่น 14-16
ในส่วนของรองผู้ว่าฯ ก็มีเทพศิรินทร์ถึง 2 คน คือ รศ.ดร.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. เทพศิรินทร์ รุ่น 100 และ นายจักกพันธุ์ ผิวงาม เทพศิรินทร์ รุ่น 14-16
จากนี้ไป ก็คืองานท้าทายที่รอนายชัชชาติ และทีมงาน พวกเขาและเธอต้องกรุยทางฝ่าฟัน เพื่อแปรนโยบาย 214 ข้อ ให้สำเร็จเป็นรูปธรรมให้จงได้
โดยเฉพาะเรื่องเปลี่ยนกรุงเทพ คอรัปชั่นต้องไม่มี เพราะผู้ว่าฯ ชัชชาติทนไม่ได้กับการคอรัปชั่น แต่ถ้าทนได้กับการมีผู้ช่วยเลขานุการ ที่มีประวัติปั่นหุ้น มันคงเป็นคำพูดที่ฟังดูดีเท่านั้น
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1