MGR Online - ตำรวจ จับมือ วิริยะประกันภัย มูลนิธิเมาไม่ขับ จส.100 และ สวพ.91 มอบเงินรางวัลคลิปกล้องหน้ารถ "แคมเปญ 7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น ช่วงสงกรานต์" รอบเดือน เม.ย.65 หวังช่วยลดอุบัติเหตุ นำตัวคนทำผิดมาลงโทษ
วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร (ศจร.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ, คุณกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายการตลาด บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้แทนสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.91 และ สถานีวิทยุ จส.100 ร่วมกันแถลงผลการมอบรางวัลและเกียรติบัตร โครงการอาสาตาจราจร แคมเปญ 7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น ที่บันทึกอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ และรางวัลประจำเดือน เม.ย.65 ให้แก่เจ้าของคลิปวิดีโอที่ได้รับคัดเลือก รวมจำนวน 17 คลิป
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า โครงการมีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนทุกคนร่วมเป็นอาสาตาจราจร สามารถส่งข้อมูลพยานหลักฐานเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือ การกระทำความผิดบนท้องถนนต่างๆ ผ่านทางกล้องหน้ารถ หรือโทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานในทางคดีของตำรวจได้เพื่อช่วยคนดีชี้คนผิด โดยสามารถส่งคลิปวิดีโอผ่านช่องทางมูลนิธิเมาไม่ขับ, ศูนย์โซเชียลมีเดีย ศปก.ตร., จส.100, สวพ.91, เฟซบุ๊กเพจตำรวจทางหลวง และเฟซบุ๊กเพจกองบัญชาการตำรวจนครบาล และจะมีคัดเลือกคลิปสำคัญ เพื่อมอบเกียรติบัตรและเงินรางวัล โดยเงินรางวัลได้รับการสนับสนุนจากวิริยะประกันภัย ซึ่งในวันนี้จะมีการมอบรางวัลให้เจ้าของคลิป 2 รายการ เงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 120,000 บาท
1.มอบรางวัลแคมเปญพิเศษ “7 วัน 7 คลิป 7 หมื่น” ให้ประชาชนส่งคลิปอุบัติเหตุ ในช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้นของสงกรานต์ 2565 ซึ่งมีประชาชนคลิปมาทั้งหมด กว่า 20 คลิป ได้คัดเลือกจำนวน 7 คลิป เจ้าของคลิปจะได้รับรางวัลคลิปละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 70,000 บาท 2.มอบรางวัลคลิปอุบัติเหตุประจำเดือน เม.ย.65 อีกจำนวน 10 รางวัล โดยรางวัลที่ 1 จำนวน 20,000 บาท รางวัลที่ 2 จำนวน 10,000 บาท และรางวัลที่ 3 จำนวน 6,000 บาท ที่เหลือเป็นรางวัลชมเชย รวมเป็นเงิน 50,000 บาท โดยส่วนใหญ่เป็นคลิปอุบัติเหตุจราจร ซึ่ง ศจร.ตร. ได้ส่งข้อมูลพยานหลักฐานจากคลิปกล้องหน้ารถดังกล่าว ไปให้ สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งหลักฐานจากกล้องหน้ารถ ถือเป็นวัตถุพยาน ที่สำคัญที่สามารถชี้ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายกระทำโดยประมาทได้อย่างแท้จริง เพื่อชี้เพื่อดำเนินการกับผู้ที่กระทำความผิด
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า โครงการอาสาตาจราจร เป็นการขับเคลื่อนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อรณรงค์สร้างจิตสำนึกในการขับขี่ปลอดภัยและการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแจ้งเบาะแสการทำผิดกฎจราจร ให้สังคมเป็นเกราะป้องกัน และสร้างสังคมที่มีความรับผิดชอบ โดย ศจร.ตร. จะขับเคลื่อนโครงการอาสาตาจราจร อย่างต่อเนื่อง เมื่อประชาชนทุกคนรู้ว่าบนท้องถนนจะมีกล้องของรถ แต่ละคันคอยบันทึกเหตุการณ์ต่างๆ จะสร้างความตระหนักและตื่นตัวในการปฏิบัติตามกฎจราจร ลดการกระทำผิดกฎหมาย อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
รองผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า แม้พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ที่มีการบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ขอให้ประชาชนและพลเมืองดีไม่ต้องกังวลใจในการส่งคลิปวิดีโอการกระทำความผิดของผู้ใช้รถใช้ถนนมาที่ช่องทางต่างๆ ของโครงการฯ ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีความผิดตามพ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากการถ่ายคลิปตามโครงการถือว่าเป็นการกระทำเพื่อความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงเป็นการปกป้องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง จึงไม่เข้าข่ายความผิดดังกล่าว อีกทั้งเมื่อส่งมายังช่องทางต่างๆ ของโครงการแล้วจะมีการเบลอแผ่นป้ายทะเบียนและใบหน้าของผู้กระทำความผิด ก่อนนำมาเผยแพร่ทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ผู้กระทำความผิดได้รับความเสื่อมเสียหรือเสียหาย และสามารถกลับตัวกลับใจเป็นคนดีไม่กระทำความผิดซ้ำอีก