อัยการยื่นฟ้อง "ไฮโซเนย" ลูกศิษย์คนสนิท หลอกเอาลายเซ็น “พระวันรัต” ถอนเงินจากบัญชี 80 ล้านบาท อ้างจะเอาไปซ่อมแซมวัด-จ่ายค่าแรงคนงาน ศาลไม่ให้ประกันตัว ยังถูกคุมขังในเรือนจำ
วันนี้ (2 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 4 ได้เป็นโจทก์ฟ้อง นายอภิรัตน์ ชยางกูร ณ อยุธยา หรือ เนย อายุ 39 ปี อดีตลูกศิษย์คนสนิทของ สมเด็จพระวันรัต เป็นจำเลยฐานฉ้อโกง ปลอมเอกสารสิทธิ์ ใช้เอกสารปลอม ตามป.อาญา มตรา 341 ,265,268 ทำให้เสียหายรวม 80 ล้านบาทเศษ โดยยื่นฟ้องไปเมื่อวันที่ 10 พ.ค.2565 นั้น
คดีนี้คำฟ้องระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 28-29 พ.ย.2564 นายอภิรัตน์ จำเลย ซึ่งเป็นลูกศิษย์คนสนิทคอยปรนนิบัติรับใช้สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พรหมคุตโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งมรณภาพ เมื่อที่ 15 มี.ค.2565 มีหน้าที่รับมอบฉันทะจากสมเด็จพระวันรัต ให้เบิกถอนเงินจากธนาคาร กสิกร สาขาบางลำพู ของพระวันรัตและของวัดวชิรธรรมาราม จ.อยุธยา ซึ่งเป็นวัดสาขาของวัดบวร มีหลายบัญชี ซึ่ง เป็นเงินของวัดวชิรธรรมาราม สำหรับเก็บเงินเป็นค่าปฎิสังขรณ์วัด มีสมเด็จพระวันรัตลงนามเซ็นเบิกถอนได้คนเดียว ใช้ชื่อบัญชี "สมเด็จพระวันรัตช่วยน้ำท่วม" เป็นต้น
โดยจำเลยไปหลอกลวงพระวันรัตว่าจะต้องไปเบิกเงินในบัญชีจำนวน 2 บัญชี เพื่อซ่อมแซมวัดและจ่ายค่าแรงคนงาน รวม 2 ครั้งเพื่อใช้ในกิจการของวัด เมื่อได้ลายเซ็นแล้วก็ไปถอนเงินที่มีลายเซ็นพระวันรัตไปกรอกข้อความในช่อง รายการเบิกถอนโดยไม่มีสิทธิ์ ด้วยเจตนาแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบ เป็นการทุจริตใช้เบิกถอนเงินจากธนาคาร 50 ล้านบาท กับ 30 ล้านบาทเศษ จำนวน 2 ครั้ง รวม 80 ล้านบาทเศษ โดยมีเจตนาจะเอาเงินไปใช้ส่วนตัว การกระทำดังกล่าวเป็นการหลอกลวงพระวันรัตด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยเจตนาทุจริต ทำให้ได้ทรัพย์สินเงินสด แล้วซื้อแคชเชียร์เช็คบ้าง และโอนเข้าบัญชีของจำเลยเองบ้าง การเบิกถอนการโอนแต่ละครั้งต้องใช้บัตรประชาชนกับสมุดบัญชีเงินฝากของพระวันรัตไปแสดงต่อธนาคาร สร้างความเสียหายแก่วัดวชิรธรรมาราม
ต่อมาศาลอาญาได้ออกหมายจับ แล้วตำรวจสามารถจับกุมจำเลยได้ที่คอนโดมิเนียมพร้อมรถยนต์หรู (แยกดำเนินคดีฟ้องเงิน) กับบัตรประชาชนของพระวันรัตอยู่กับจำเลย โดยศาลสั่งประทับรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำ ที่อ.1117/2565
ซึ่งจำเลยให้การปฎิเสธ และยื่นประกันตัวแล้วศาลไม่อนุญาต จำเลยจึงถูกหมายขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมาตลอด
ทั้งนี้ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการขอให้คืนเงินจำนวน 80 ล้านบาทเศษด้วย
ศาลจึงนัดตรวจพยานวันที่ 13 มิ.ย.นี้ โดยให้ส่งพยานหลักฐานมาให้อีกฝ่ายตรวจสอบก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 7 วัน
มีรายงานว่า สำหรับนายอภิรัตน์ ชยางกูร บุคลิกภายนอกเป็นคนนิ่งขรึม เรียบร้อยนุ่งขาวห่มขาวสะพานย่าม ใบหน้าเด้งขาวดูสงบสงัดนิ่ง จะเห็นบ่อยๆ ในวัด คอยจัดคิวใหผู้หลักผู้ใหญ่เข้าพบพระวันรัต แต่อีกมุมหนึ่งกลับกลายเป็นไฮโซเนย ขับรถบีเอ็มดับเบิลยู เบนท์ลีย์ เล็กซัส ปอร์เช่ มีคอนโดมิเนียม ที่ดิน พระเครื่อง ทองคำจำนวนมากชอบงานสังคม กินดื่ม สวมเสื้อผ้าแพงๆ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าจะเกี่ยวช้องกับการฟอกเงินหรือไม่