อัยการภาค 1 สั่งเลื่อนนัดฟังคำสั่งฟ้อง 6 ผู้ต้องหาคดี“แตงโม” หรือไม่ ไปปลายเดือน มิ.ย. เหตุมีเอกสารในสำนวนมากกว่า 18 แฟ้ม ความเห็นทางคดีอีก 100 แผ่น ต้องใช้เวลาในการพิจารณา
วันนี้ (27 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. นายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือ โรเบิร์ต เดินทางมาถึงที่สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรีด้วยรถยนต์ส่วนตัว ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 กฌ 8 กรุงเทพมหานคร โดยมีทนายมารอรับ และพาเข้าไปยังห้องสำนักอำนวยการ สำนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรี เพื่อเซ็นชื่อรายงานตัว พร้อมรับทราบเลื่อนฟังคำสั่งออกไป ซึ่งนายไพบูลย์ ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ก่อนกลับออกไปพร้อมทั้งปฏิเสธการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่มารอปักหลักติดตามทำข่าวตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา
ต่อมาเวลา 13.36 น. น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก พร้อมด้วยทนายความ และ นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ แซน เดินทางเข้ามารายงานตัว พร้อมกัน ด้วยสีหน้าปกติ ซึ่งทนายความของแซน ได้มารออยู่ที่สำนักงานก่อนหน้าแล้ว โดยทั้งกระติกและแซนได้ใช้เวลารายงานตัวและเซ็นรับทราบนัดเลื่อนฟังคำสั่ง รวมประมาณ 5 นาที โดยระหว่างนี้ ผู้สื่อข่าวสังเกตพบว่า นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ ได้เดินเข้าประตูด้านหลังของสำนักงานอัยการพร้อมทีมทนายความ และได้เข้าไปเซ็นรายงานตัวและรับทราบนัด ก่อนที่นายปอจะเดินทางกลับออกไปโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด
นายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือ จ๊อบ ได้เดินทางมารายงานตัว พร้อมทนายความเป็นคนสุดท้าย และเดินเข้าไปยังห้องสำนักอำนวยการเพื่อรายงานตัวและเซ็นรับทราบนัด โดยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก่อนจะเดินทางกลับ โดยไม่ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนเช่นเดียว อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า นายภีม ธรรมธีรศรี หรือ เอ็ม ได้เดินทางมารายงานตัวและเซ็นรับทราบคำสั่งเลื่อนฟังคำสั่งเรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ได้เดินทางเข้ารายงานตัวเสร็จสิ้น กระติกและแซนได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดย กระติก-อิจศรินทร์ เปิดเผยว่า อัยการได้เลื่อนนัดฟังคำสั่งคดีออกไปเป็นวันที่ 23 มิถุนายนนี้ แต่ตนไม่ทราบเหตุผล ส่วนตัวไม่ได้มีความกังวลใดๆ การเลื่อนนัดเป็นเรื่องปกติ และคดีนี้สำนวนค่อนข้างเยอะ เชื่อว่าต้องใช้เวลาพิจารณา แต่นัดหน้าทราบว่าไม่เลื่อนแล้ว
ส่วนเรื่องที่มีมือมืดโพสต์คลิปวิดีโอ รวมถึงรูปภาพต่างๆ บนเรือ กระติก เผยว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เคลียร์กับที่คนโพสต์ ตนปล่อยให้มันเป็นเรื่องตามกระบวนการทางกฎหมาย และมองว่า เป็นการสร้างความวุ่นวายมากกว่า แต่ตนไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ใช่ว่าอะไรๆก็โยนมาที่ตนหมด ส่วนเรื่องคดีแตงโม เป็นกระบวนการตามกฎหมาย สุดท้ายผลพิสูจน์ออกมามันไม่ใช่เรา ก็ขอให้อัยการหรือชั้นศาลเป็นผู้พิสูจน์ อีกทั้งบุคคลใดที่บอกว่ามีคลิปฆ่า กรีดขา ขอให้นำออกมาเลย เพื่อที่ประชาชนจะได้รู้ความจริงกัน
สำหรับเรื่องโทรศัพท์ของแตงโมที่มีภาพอันตรายจำนวน 30 ภาพในเครื่องนั้น กระติก ระบุว่า มันเป็นโทรศัพท์ของแตงโม ตนไม่ทราบว่ามีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง อยากให้ทุกคนไปโฟกัสกับเรื่องคดีมากกว่า รู้สึกว่าควรให้เกียรติกับผู้เสียชีวิตด้วย เวลามันผ่านไปนานมากๆ แล้ว ทุกวันนี้ดูข่าวไม่ได้เชื่อทั้งหมด อะไรที่ไม่ได้เห็นกับตาไม่ได้เชื่อเลย ข่าวตอนนี้มันเริ่มนอกเหนือไปจากเรื่องบนเรือแล้ว อยากฝากสื่อมวลชนว่าตอนนี้เรากำลังหาความยุติธรรมให้แตงโมหรือทำร้ายแตงโมกันแน่ และตอนนี้เราควรให้พื้นที่สื่อกับใครบ้าง
ขณะที่ แซน-วิศาพัช เปิดเผยว่า บังแจ็คได้มีการพยายามติดต่อโทรศัพท์มาหา และส่งข้อความมาหาตน แต่ตั้งแต่ที่ตนรับสายครั้งแรก พอรู้ว่าเป็นบังแจ็ค ตนก็ไม่ได้รับสายอีกเลย และก็ไม่ได้ให้ความสนใจบังแจ็ค มองเป็นเรื่องตลกมากกว่า
ด้าน น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการจังหวัดนนทบุรี ผู้รับผิดชอบคดีการเสียชีวิตของแตงโม เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันนัดครบกำหนดรายงานตัวของผู้ต้องหาทั้ง 6 คน โดยทั้งหมดได้เข้ามาเซ็นรับทราบนัดหมายเลื่อนรายงานตัวและได้มีการแจ้งเลื่อนให้ทั้งหมดมารับฟังคำสั่งภายในเดือนมิถุนายน แต่จะเป็นวันที่เท่าไหร่นั้น ทางโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด จะเป็นผู้แจ้งอีกที
น.ส.สุภาภรณ์ เผยอีกว่า เนื่องจากได้มีการส่งสำนวนไปยังสำนักงานอธิบดีอัยการภาค 1 ตามระเบียบขั้นตอน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนอธิบดีอัยการภาค 1 มีความเห็นพิจารณา ส่วนสาเหตุที่มีการเลื่อนฟังคำสั่งนั้น เนื่องจากสำนวนคดีที่มีจำนวนมาก และได้มีการส่งสำนวนพร้อมความเห็นไปให้อัยการอธิบดีภาค 1 เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเวลา 2 วัน โดยส่งไปทั้งหมด 18 แฟ้ม ประกอบด้วยสำนวนของพนักงานสอบสวน จำนวน 8 แฟ้ม, อัยการจังหวัดนนทบุรีสอบเพิ่มเติมอีก 10 แฟ้ม และความเห็นของอัยการจำนวน 102 หน้า การพิจารณาจึงต้องใช้เวลา ทั้งนี้การพิจารณาฟังคำสั่งอีกครั้งจะเป็นช่วงไหนอย่างไรนั้น ตามกรอบระยะเวลา ก็จะต้องขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชา
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายนั้น น.ส.สุภาภรณ์ ขอชี้แจงว่า โดยปกติแล้ว คดีประมาทฯจะไม่มีการประมาทร่วมกัน เพราะคดีประมาทฯจะมีลักษณะที่ต่างคนต่างกระทำการประมาทฯ ให้นับเป็นคนละคดี