รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม 2565 นำเสนอรายงานพิเศษ เด็ดปีก “หมอปลา” อลัชชีเริงร่า เข้ายุค ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์
คำสารภาพของนายพงศกร จันทร์แก้ว หรืออดีตพระกาโตะ แสดงให้เห็นถึงความที่สุดของความเลวทรามในผ้าเหลือง
เขายอมรับกับตำรวจ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ว่า ยืมเงินวัดถึง 6 แสนบาท เพื่อเอาไปปรนเปรอ “สีกาตอง” คู่กิ๊กของตัวเอง
กาโตะแอบคิดว่าตัวเองจะได้ทุกอย่าง ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งผู้หญิง ได้ทั้งชื่อเสียง และได้ความเป็นพระไว้หากิน แต่ตอนนี้เขาต้องเสียแล้วทุกอย่าง ปลายทางก็คงไม่แคล้วจะเป็นคุก
แน่นอน คนไทยทั่วไปก็รู้ดี เรื่องเลวทรามในผ้าเหลืองแบบนี้ จะไม่เกิดกับกาโตะเป็นรายสุดท้าย ยังมีอลัชชีอีกเยอะที่ยังจับไม่ได้ไล่ไม่ทัน
มิหนำซ้ำ เอ็นจีโอนักสึกพระอย่าง “หมอปลา” นายจีรพันธ์ เพชรขาว ซึ่งลุยกระชากจีวรพระนอกรีตสำเร็จรัวๆ ช่วงที่ผ่านมา ก็กำลังหมดพลังแบบฉับพลัน
กลายเป็นว่า หมอปลาเองก็มีชะตากรรมคล้ายกาโตะ อาจต้องติดคุกติดตะรางไปด้วย
ทั้งที่จากเดิม หมอปลาได้เตรียมการจะดับดาวติ๊กต่อกอย่างกาโตะ
พอพลาดท่าจากกรณี “หลวงปู่แสง” แล้วโดนขุดว่า แท้จริงหมอปลาก็สร้างคอนเทนต์สึกพระไป ขายของแบรนด์ Dr. P ของตัวไป
คราวนี้เลยโดนเอาคืนแบบ “ทบต้นทบดอก” จากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีการเรียกนิติกรมาประชุม รวบรวมหลักฐานเอาผิดกับหมอปลาไว้หมดแล้ว ผลจากการยกพลบุกวัดต่างๆ ถึง 8 วัด ช่วงที่ผ่านมา
ซึ่งหมอปลาอาจโดนข้อหาอีนุงตุงนัง ไม่ว่าจะประมวลกฎหมายอาญา พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และการละเมิดสิทธิมนุษยชน
สำนักพุทธฯ ทำแบบนี้ เหล่าอลัชชีคงเฮลั่น เตรียมฉลอง “หมูกระทะแกล้มเบียร์” กันเต็มคราบ
ความจริงแล้ว สิ่งที่หมอปลาและคณะทำลงไป อาจผิดในแง่วิธีการที่ไม่รอบคอบรัดกุม ไม่มีกฎหมายรองรับทุกขั้นตอน
แต่ผลลัพธ์ที่ออกมา ยกเว้นกรณีของหลวงปู่แสงแล้ว นอกนั้นถือว่า “เข้าเป้า” หมอปลาจับสึกพระนอกรีตถูกตัวทั้งสิ้น
จึงมีคำถามย้อนกลับไปถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ “สำนักพุทธ” ว่า แล้วที่ผ่านมา สำนักพุทธฯ ได้ทำหน้าที่ของตัวเองครบถ้วนดีแล้วหรือไม่?
หรืออยู่กันแบบ เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ยึดคติ “ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์”
คนแบบหมอปลาแจ้งเกิดได้ ในบทบาทนักปราบอลัชชี ก็เป็นเพราะหน่วยงานผู้รับผิดชอบ เข้าเกียร์ว่างนั่นแหละ
การพลิกกฎหมายสารพัดฉบับ มาเชือดหมอปลา ย่อมนำความสงบสุขกลับมาสู่วัดทั่วประเทศ และสำนักพุทธฯ แต่นั่นก็เท่ากับการสกัดกั้น ไม่ให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมพระเลวพระชั่วอีกต่อไป
โดยทั่วไปแล้ว พระที่ทำตัวมีปัญหา ก็มักไม่รอดสายตาชาวบ้านรอบวัดไปได้ แต่การร้องเรียนเอาผิด เป็นเรื่องยากถึงยากที่สุด โดยเฉพาะขั้นตอนการหาหลักฐานแบบ “คาหนังคาเขา”
การมีหมอปลาออกมาเย้วๆ เป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน ให้ชาวบ้านที่ส่งเรื่องร้องเรียนมา ต้องถือว่าเขาได้ทำประโยชน์ให้กับพุทธศาสนา เพียงแต่วิธีการเท่านั้น ที่ต้องปรับปรุงให้ดี
อย่างไรก็ตาม แม้สำนักพุทธฯ จะเป็นที่พึ่งพาในการขจัดเหลือบศาสนาไม่ได้ แต่ก็มีข่าวดีจากคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร
ได้นำประเด็นร้อนของกาโตะ มาหารือปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
หลักการสำคัญคือ ต่อไป ถ้ามีเหตุพระภิกษุเสพเมถุน จะโดนโทษทางอาญา ทั้งฝ่ายพระและสีกา ไม่ใช่แค่สึกไปแล้วจบ
ที่ผ่านมา การมาบวชพระ เป็นแค่ช่องทางเอาตัวรอดของคนจนตรอกสารพัดรูปแบบ อย่างโจรปล้นฆ่า ก็ชอบหนีคดีไปบวชพระ
ไม่มีความรู้ ไม่มีงานทำ ขี้เกียจก็ไปบวชพระ มีข้าวฟรี ที่พักฟรี มีเงินใช้ มีคนกราบไหว้
แม้แต่ตุ๊ดแต๋วที่เป็นบุคคลต้องห้ามขั้นเบสิก ไม่ให้บวช ก็ไม่มีกระบวนการกลั่นกรอง จนมีข่าวเนืองๆ พระตุ๊ดเณรแต๋ว มั่วกันเพลินในวัด
พระชั่วรูปไหนต้องปาราชิกถูกจับสึก ก็ไม่วายดอดไปบวชใหม่ได้อีก
เห็นได้ชัดว่าลำพังศีล 227 ข้อ และการปกครองสงฆ์ปกติ ล้าสมัยเกินไป ตามไม่ทันพัฒนาการของเหลือบศาสนา
ไหนๆ จะแก้กฎหมายแล้ว ก็อย่าขีดวงแค่พระเสพเมถุน แต่กวาดให้ครบไปเลย พระกินเบียร์ เสพยา เล่นการพนัน จับสึกยัดคุกให้หมด ก็ถือว่าช่วยจรรโลงศาสนา สาธุ!
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1