รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม 2565 นำเสนอรายงานพิเศษ กาโตะ-ยันตระ จุดจบ 2 พระนักรัก ก่อบาปพิฆาตนารี
สุดจะทนต่อแรงกดดันทางสังคม และการปกครองสงฆ์ หลวงพี่กาโตะ หรือชื่อจริง พระพงศกร ปภัสสโร รักษาการเจ้าอาวาส วัดเพ็ญญาติ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ก็ตัดสินใจ เปล่งวาจาขอลาผ้าเหลืองเรียบร้อยแล้ว
นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง ท่ามกลางความไม่ถูกต้องอย่างร้ายกาจ ที่ตัวเองก่อไว้กับพุทธศาสนา
จบตำนานพระผู้โด่งดังในโลกโซเชียล ไล่หลัง “ทิดสมปอง-ทิดไพรวัลย์” ไปติดๆ
ขณะเดียวกัน ก็ย่ำรอยประวัติศาสตร์อื้อฉาวคาวสวาทของอดีตพระยันตระ อมโรภิกขุ โดยทั้งสองพระฉาว มีเรื่องราวหลายๆ อย่าง ที่คล้ายคลึงกันอย่างน่าประหลาดใจ
ความเป็นคู่เหมือนกัน ระหว่างกาโตะกับยันตระ เริ่มจากการเป็นพระรูปหล่อคมเข้ม ในแบบฉบับหนุ่มใต้เหมือนกัน มิหนำซ้ำ ยังเป็นชาวเมืองคอนเหมือนกันอีกต่างหาก
กาโตะกับยันตระ โด่งดังในฐานะเป็นพระนักเทศน์ พูดเก่งเหมือนๆ กัน เพียงแต่รุ่นพี่ โด่งดังผ่านการจัดตั้งองค์กรอย่างเป็นระบบ และทำตลาดผ่านสื่อมวลชน
ส่วนรุ่นน้อง ใช้ช่องทางโซเชียลอย่าง “ติ๊กต่อก” เป็นเครื่องมือ ก็ดังเป็นพลุแตกด้วยความสามารถเฉพาะตัว ไม่ต้องพึ่งองค์กรจัดตั้งใดๆ
ส่วนด้านมืดที่เป็นฉากหลังของสมีต่างวัย ก็เป็นเรื่องการเสพเมถุนเหมือนๆกัน แถมยังเสพในที่พิสดารเหมือนๆกัน อย่างกาโตะมีหลักฐานว่าเสพสีกาในรถยนต์
ส่วนยันตระ เสพบนดาดฟ้าเรือเดินสมุทร หรือแม้แต่ในห้องอบซาวน่า
ทั้งสองต่างเป็น “สายเปย์” ให้กับสีกาเหมือนกัน ก็เงินที่ชาวบ้านทำบุญให้ด้วยความศรัทธา กลับเอาเงินบุญเหล่านั้น ไปก่อบาปท้านรก
การถูกจับได้ไล่ทัน ก็ยังคล้ายกันอีก พระยันตระเคยถูกแหม่มสาวเซ็กซี่ชาวเดนมาร์ก แอบอัด “เทปลับ” มาได้ ขณะตัวเธอถูกยันตระโทร.มาจีบกลางดึก
ด้วยเสียงกระเส่า “อีวา ไอ เลิฟ ยู”
เสียงผู้ชายในเทปลับ ฟังยังไงก็เสียงยันตระ ถูกบันทึกไว้ด้วยเทคโนโลยีโบราณ เครื่องบันทึกเทปคาสเสตต์ ต่อพ่วงกับโทรศัพท์บ้าน
ขณะที่กาโตะ โดนอัด “คลิปลับ” จากโทรศัพท์มือถือ ให้คุณภาพเสียงชัดแจ๋ว ยืนยันตัวตนคนพูดได้แน่นอน ไม่เท่านั้น ยังมี “แชทไลน์” มัดซ้ำอีกเปลาะ
จริงๆแล้ว ยันตระยังถูก “ดักฟัง” จากหน่วยข่าวของทหารใน จ.กาญจนบุรีด้วย เพราะพระนักรัก เวลาย้ายมาพำนักในสำนักสาขาแถวชายแดนกาญจนบุรี ก็จะใช้เทคโนโลยีสื่อสารที่ดีสุดของยุคนั้น และพื้นที่นั้น ในการจีบสาวกลางดึก
สิ่งนั้นก็คือ ว.สื่อสารแบบ วอล์กกี้ ทอล์กกี้ จนโดนหน่วยข่าวของทหารสแกนพบเข้า ใครนะมาคุยชู้สาว ส่งเสียงลอยลมกลางดึก
พอลอบฟังรายละเอียดการพูดคุย อ้าว โป๊ะแตก สุดยอดพระหมายเลข 1 ของเมืองไทยนี่เอง ดันมา ว.คุยจีบสาวดึกๆ ดื่นๆ ธรรมะกลายเป็นธรรมโมะ ไปเสียฉิบ
แค่นี้ยังไม่พอ ความเหมือนกันระหว่างกาโตะกับยันตระ ยังมีคนตามจับผิดที่เป็นพระด้วยกันอีกต่างหาก
“หลวงพี่ทองย้อย” เป็นคนจุดชนวนเปิดโปงกาโตะ จนเจ้าตัวโดนเล่นงานจากพระผู้ใหญ่ แทบเอาตัวไม่รอด
ส่วนคู่กัดยันตระ ก็คือ พระพยอม กัลยาโณ แห่งวัดสวนแก้ว ผู้ซึ่งนิยามว่า เจ้าสำนักสุญญตาราม ที่ผู้คนต่อแถวตักบาตรยาวเป็นกิโลฯ ว่า ชื่อของคนนี้ไม่ใช่ “ยันตระ” แต่เป็น “ยันตระเบ๊ด”
รวมถึงฟันธง ว่าไม่ใช่เรื่องของ “นารีพิฆาต” แบบที่ยันตระอ้าง แต่เป็น “พิฆาตนารี”
ลาภยศเงินทองชื่อเสียง ที่ทำมาหาได้ง่ายๆ ในคราบผ้าเหลือง ทำเอาสองพระรูปหล่อยึดติด พอเกิดเรื่องอื้อฉาวคาวโลกีย์ ก็ยังปากแข็งปฏิเสธพัลวันไว้ก่อน
เพียงแต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปมาก ด้วยกาลเวลาที่ห่างกันถึง 28 ปี จากยันตระเมื่อปี 2537 มาถึงกาโตะในปี 2565 กระบวนการขุดคุ้ยค้นหาความจริงของสังคม มีระดับความเข้มข้นที่ต่างกันแบบฟ้ากับเหว
สมัยยันตระ มีแต่สื่อมวลชนบางสำนัก เจาะหาหลักฐานอย่างโดดเดี่ยว โดยถูกเตะตัดขาจากสื่อด้วยกันอีกต่างหาก ชาวบ้านทั่วไปก็มีฐานะแค่คนตามอ่านข่าว ยันตระเลยกอดผ้าเหลืองได้นานร่วม 2 ปี
แต่พอสมัยกาโตะ สื่อทุกสำนักเฮโลรุมค้นหาความจริง ผสมโรงด้วยชาวเนต ที่แห่มาช่วยขุดกันอย่างมัน กาโตะเลยยืนระยะไม่อยู่ มาเร็วเคลมเร็ว
การชิงสึกของกาโตะ ก็ช่วยให้องค์กรปกครองสงฆ์นครศรีธรรมราชถอนใจโล่งอก ไม่ต้องเสียชื่อมัวหมองแบบสมัยยันตระ ที่พระผู้ใหญ่พากันอุ้มให้ไปต่อ
จนเหม็นกันไปทั้งดงขมิ้น
---------------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1