xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ห้วยขวางออกหมายเรียก "ปริญญ์" รับทราบข้อหาพรากผู้เยาว์-ทำอนาจาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รอง ผบช.น.ประชุมคดีนายปริญญ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ลวนลามข่มขืนเหยื่อสาวหลายราย เผยตำรวจ สน.ห้วยขวางออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อหาพรากผู้เยาว์-กระทำอนาจาร 5 พ.ค.นี้

วันนี้ (27 เม.ย.) เวลา 16.30 น. ที่ สน.ลุมพินี พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. เดินทางมาประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ต้องหา 1.กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น โดยกระทำต่อหน้าธารกำนัล และ 2.ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นซึ่งมิใช่ภรรยาตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

พล.ต.ต.ไตรรงค์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่าทราบว่าคดีมีความคืบหน้าไปมากโดยเฉพาะคดีที่ สน.ห้วยขวาง พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพียงพอเเล้ว วันนี้ขอศาลออกหมายจับข้อหา “พรากผู้เยาว์” เเละ “กระทำอนาจาร” เเต่ศาลไม่อนุมัติหมายจับ โดยให้เรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหาเเทน โดยศาลให้ความเห็นว่าผู้ต้องหามาพบพนักงานสอบสวนและมีคดีในชั้นศาลแล้ว 4 คดี และได้ประกันตัวในชั้นศาลประกอบกับผู้ต้องหาไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงให้ออกหมายเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อกล้าวหาที่ สน.ห้วยขวาง ในวันที่ 5 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.


ส่วนประเด็นการถอนแจ้งความผู้เสียหายทั้งหมด 15 ราย มี 12 คดี ยังไม่มีรายใดถอนแจ้งความเเละขณะนี้เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานเเละสอบปากคำใกล้เสร็จสิ้นเเล้ว คาดว่าสัปดาห์หน้าจะสามารถเเจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาได้ส่วนคดีที่จังหวัดเชียงใหม่เเละเพชรบุรีก็ให้เเต่ละพื้นที่รับผิดชอบ ทั้งนี้ตำรวจไม่มีความกังวลใจในสำนวนคดีเเละพยานหลักฐานต่าง ๆ เเม้ว่าจะเกิดเหตุกับผู้เสียหายเเต่ละรายมานานเเล้ว เเต่หลักฐานอื่น ๆ ก็สามารถเอาผิดกับผู้ต้องหาได้ ส่วนตัวผู้ต้องหานั้นสอบปากคำเสร็จไปเเล้ว 3 คดี ส่วนคดีอื่น ๆ หากจำเป็นต้องสอบปากคำเพิ่มเติม ก็จะเรียกผู้ต้องหามาสอบปากคำ ยืนยันตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เเม้เเต่ตัวผู้ต้องหาเองก็สามารถเเสวงหาพยานหลักฐานเข้าสู่สำนวนได้

ทั้งนี้พล.ต.ต.ไตรรงค์ ยังชึ้แจงสาเหตุที่ศาลไม่อนุมัติหมายจับแต่กลับให้ออกหมายเรียกแทน เนื่องจากเห็นว่า ผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเเล้ว 4 คดี เเละมีเงื่อนไขในการประกันตัว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องออกหมายจับซ้ำในคดีที่มีลักษณะเดียวกัน ส่วนข้อกังวลว่าผู้ต้องหาว่าผู้ต้องหาจะออกมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานเเละผู้เสียหายนั้น ในเงื่อนไขการประกันตัวระบุไว้ชัดเจนว่าห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน มิเช่นนั้นจะถูกถอนประกันตัวทันที ซึ่งขณะนี้ตั้งเเต่ดำเนินคดีไป ยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาเเจ้งว่าผู้ต้องหาเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
กำลังโหลดความคิดเห็น