อัยการยื่นฟ้อง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” อีกคดี ปมไลฟ์สดพาดพิงดูหมิ่นสถาบันฯ กรณีวัคซีนพระราชทาน
วันนี้ (11 เม.ย.) พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 5 ยื่นฟ้อง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นจำเลย ต่อศาลอาญา ความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 4
พฤติการณ์กล่าวหา สรุปว่า เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2564 ไดัมีการพูดถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กชื่อ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในหัวข้อ “วัคซีนพระราชทาน : ใครได้-ใครเสีย?” ที่ทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยต่อสถาบันเบื้องสูง กับการกระทำของรัฐบาลที่นำงบประมาณไปใช้ในการสนับสนุนการผลิตและจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทแห่งเดียว
โดยศาลอาญา ประทับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ อ.875/2565
ภายหลังอัยการยื่นฟ้องแล้ว ศาลได้สอบคำให้การ โดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จำเลย ให้การปฏิเสธ
ศาลจึงกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ต่อมา นายกฤษฎางค์ ทนายความได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ 90,000 บาท
โดยศาลอาญาอนุญาตให้ประกันแล้ว ตีราคาประมาณ 90,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไข
ห้ามจำเลยกระทำการใดๆ ในทำนองเดียวกันกับที่ถูกกล่าวหา หรือไปกระทบสถาบันพระมหากษัตริย์อีก ในระหว่างการปล่อยชั่วคราว มิฉะนั้น จะถือว่าผิดสัญญาประกัน เเละกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.
ด้าน นายธนาธร กล่าวว่า ตนยืนยันว่า สิ่งที่ได้กระทำไปมีเจตนาที่ดีให้กับบ้านเมือง เพื่อปกป้องสถาบันฯยืนยันว่า สิ่งที่ได้กระทำการลงไปนั้น บัดนี้เวลาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า สิ่งที่ตนพูดเป็นความจริง วัคซีนที่สามารถป้องกันไวรัสโควิดได้มากที่สุด คือ mRNA เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสิ่งที่พูดไปเป็นผลประโยชน์ของประชาชน หรือไม่อย่างไร ประชาชนก็คงตัดสินใจเองได้ ส่วนในชั้นตรวจพยานหลักฐานหลังจากนี้เราให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและพร้อมต่อสู้คดี และเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของเรา ก็คงเตรียมการเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามมองว่า เป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่
นายธนาธร กล่าวว่า ยุคนี้เป็นยุคที่มีคดีทางการเมืองมากที่สุด มีคดี 112 มากที่สุด มากกว่าทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา ยืนยันว่า การใช้กระบวนการแบบนี้ทางการเมืองมากันแกล้งไม่เป็นคุณต่อสถาบันฯ ตนไม่ใช่คนแรกและคนสุดท้าย ขอให้กำลังใจผู้ที่ถูกกล่าวหาด้วยคดีความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.คอมฯ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือมาตรา 112 และหลังจากนี้ ตนก็ทำเต็มที่ไม่ว่าเรื่องไหนที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชน ก็ต้องพูด
เมื่อถามว่า เกรงจะผิดเงื่อนไขการให้ประกันของศาลหรือไม่
นายธนาธร กล่าวว่า ขอยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง สถานการณ์สิทธิมนุษย์ชนของประเทศไทยตกต่ำอย่างน่าใจหาย สิทธิเสรีภาพความเท่าเทียมกันทางประชาธิปไตยของประชาชนเป็นเรื่องเดียวกันกับความเท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจ เป็นเรื่องเดียวกับผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เพราะเป็นเรื่องของอำนาจและการจัดสรรผลประโยชน์ของประชาชน ตราบใดที่ประชาชนยังไม่มีอำนาจก็จะไม่มีทางมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ขอให้มาร่วมมือกัน ทำให้อำนาจสูงสุดของประเทศนี้เป็นของประชาชน