MGR Online - กองปราบตามรวบ “ไอ้บิว” มือปืนโหด บุกยิงอริดับคาโรงพยาบาล หลังหนีรักษาตัว สารภาพตามบุกยิงซ้ำ หลังทะเลาะกันในร้านอาหาร
วันนี้ (9 เม.ย.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขันธ์ ผบก.ป. สั่งการ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์, พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์, พ.ต.ท.สิทธิพร มีอาษา สว.กก. บก.ป. ร่วมกับ บก.สส.ภ.4 และ กก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ นำกำลังจับกุม นายบุญญฤทธิ์ พลขันธ์ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดบึงกาฬ ที่ 35/2565 ลงวันที่ 9 เมษายน 65 ข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และพาอาวุธปืนไปในทาง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต” ได้ขณะรักษาตัวที่ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์
นอกจากนี้ ยังได้ควบคุมตัว นายชลิต แมงไธสง อายุ 20 ปี เพื่อนของผู้ต้องหา หลังทราบว่า เป็นผู้ให้การช่วยเหลือพาหลบหนี ก่อนนำตัวพาเข้าตรวจยึ ดเสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ ซึ่งถูกซุกซ่อนอยู่ที่บ้านญาติ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.20 น. เกิดเหตุวัยรุ่นทะเลาะกันภายในร้านอาหารชื่อดังใน อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ นายสุริยชัย อายุ 21 ปี หลังจากเกิดเหตุผู้บาดเจ็บได้เดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลปากคาด ต่อมาได้มีกลุ่มคู่อริตามไปใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิง นายสุริยชัย จำนวน 4 นัด ภายในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล
ปากคาด เป็นเหตุให้ นายสุริยชัย เสียชีวิต ดังกล่าว
การกระทำดังกล่าวถือเป็นการอุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ก่อเหตุในโรงพยาบาล ขณะที่หมอและพยาบาลกำลังรักษาผู้บาดเจ็บอยู่ สร้างความหวาดกลัวและสะเทือนใจต่อประชาชนเป็นอย่างมาก พล.ต.ต.มนตรี จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ป. เร่งสืบสวนติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดบึงกาฬโดยเร็ว ต่อมาทราบว่า หลังก่อเหตุผู้ต้องหาได้หลบหนีมารักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ จึงได้เข้าตรวจสอบ พบผู้ก่อเหตุกำลังอยู่ระหว่างการรักษาตัว จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล เพื่อควบคุมตัวดังกล่าว
สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้ทะเลาะวิวาทกับกลุ่มผู้ตายที่ร้านอาหารสถานีปากคาด จนได้รับบาดเจ็บถูกขวดแก้วบาดตามบริเวณแขน และ ลำตัว หลังแยกย้ายจึงเดินทางไป ที่ รพ.ปากคาด เพื่อจะไปรักษาบาดแผล แต่ระหว่างเดินเข้าไปเกิดพบเห็นผู้ตายอยู่ในห้องฉุกเฉินอยู่ ด้วยความโมโห จึงเดินเข้าไปหา ก่อนชักอาวุธปืนยิงใส่จนเสียชีวิต หลังก่อเหตุทราบดีว่าภายในโรงพยาบาลมีกล้องวงจรปิด น่าจะสามารถจับภาพได้ จึงขับรถไปที่บ้านญาติ เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ เพื่ออำพรางตัว ก่อนหนีไปเข้ารับการรักษาตัวยังโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ จนถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว ส่วนอาวุธปืน ตนได้โยนทิ้งไว้ริมทาง แต่จำไม่ได้ว่าบริเวณไหน เพราะอยู่ในช่วงตกใจ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่ง สภ.ปากคาด ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป