แม่บ้านร้านสุกี้ชื่อดัง ย่านเลียบด่วนรามอินทรา ถูกเด็กรับรถต่อยหน้าบวมช้ำ หลังสามีทราบเรื่องบุกเคลียร์ถึงร้าน ก่อนเกิดวิวาทใช้มีดแทงจนเสียชีวิต
วันนี้ (22 มี.ค.) เมื่อเวลา 04.00 น. พ.ต.ต.ชยกร ตั้งสกุล สว.(สอบสวน) สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุชายถูกแทงเสียชีวิต บริเวณร้านบุฟเฟ่ต์สุกี้ชื่อดังย่านเลียบด่วนรามอินทรา ซอยประดิษฐ์มนูธรรม 19 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.ไพจิตร คำยอด รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบชายไม่ทราบชื่อ อายุ 49 ปี สภาพตามร่างกายถูกอาวุธมีดแทงเข้าบริเวณใต้ราวนม แขน และหน้าผาก เป็นแผลยาว นอนหงายเสียชีวิตอยู่บริเวณประตูทางเข้าร้านสุกี้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงบันทึกเก็บรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.พรทวี กล่าวว่า จากการสอบปากคำพนักงานร้านสุกี้ ให้การว่า ผู้เสียชีวิตเป็นเด็กรับรถ แต่ไม่ได้เป็นพนักงาน หรือลูกจ้างของร้าน แต่มักจะมาหารายได้เล็กๆ น้อยๆ จากการโบกรถอยู่หน้าร้านเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตมีอาการมึนเมาสุรา และได้มีปากเสียงกับแม่บ้านของร้านสุกี้ เกี่ยวกับเรื่องการนำขยะมาทิ้งไม่เป็นที่ จนเกิดเหตุทะเลาะวิวาทถึงขั้นลงมือทำร้ายแม่บ้าน ด้วยการชกต่อยเข้าที่บริเวณใบหน้าจนบวมช้ำ
จากนั้นแม่บ้านจึงไปบอกเล่าเรื่องดังกล่าวให้นายวราพงษ์ พิมพ์แน่น อายุ 44 ปี สามี ฟัง จึงพาเพื่อนอีก 1 คน มาเพื่อเคลียร์ปัญหา โดยสามีของแม่บ้านนั่งรอผู้เสียชีวิตบริเวณร้านนานกว่า 30 นาที เมื่อเจอผู้เสียชีวิตจึงเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันรุนแรงและใช้อาวุธมีดแทงจนเสียชีวิต หลังจากนั้น แม่บ้านก็ได้พูดเกลี้ยกล่อมให้สามีผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ที่ สน.โชคชัย ทางพนักงานสอบสวนได้นำตัว นายวราพงษ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดย พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย เปิดเผยว่า นายวราพงษ์ ผู้ก่อเหตุได้เดินทางเข้ามามอบตัวหลังเกิดเหตุแล้ว พร้อมให้การรับสารภาพว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะบันดาลโทสะ เนื่องจากผู้ตายได้โวยวายใส่ จนเกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกัน ก่อนใช้อาวุธมีดปลายแหลมที่พกมาลงมือก่อเหตุ
เบื้องต้นทางตำรวจแจ้งดำเนินคดีข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพกอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรโดยจะนำตัวส่งศาลอาญารัชดาในวันพรุ่งนี้ (23 มี.ค.) ส่วนผู้ตายเบื้องต้นทราบว่า เป็นชาวเวียดนามที่มาคอยรับรถอยู่หน้าร้าน แต่ยังไม่ทราบชื่อและยังไม่มีญาติติดต่อมาแต่อย่างใด