เปิดลับ คุกบางขวาง พลกฤต น.ช.ฆ่าโหด เลื่อนชั้นเหมือนขึ้นลิฟต์

รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2565 นำเสนอรายงานพิเศษ เปิดลับ คุกบางขวาง พลกฤต น.ช.ฆ่าโหด เลื่อนชั้นเหมือนขึ้นลิฟต์



อีกครั้งที่กรมราชทัณฑ์ ตกเป็นจำเลยสังคม ว่าด้วยการลดโทษผู้ต้องขังคดีร้ายแรง จนโทษจำคุกลดลงอย่างฮวบฮาบ ค้านความรู้สึก

กรณีอื้อฉาวเที่ยวล่าสุด เป็นเรื่องของ น.ช.พลกฤต วิเศษ อายุ 33 ปี อดีตทหารยศสิบเอก ที่ก่อคดีอุ้มฆ่า และเผานั่งยาง “น้องพลอย” น.ส.พลอยนรินทร์ ผลิผล ที่ จ.สระบุรี ชิงทรัพย์สินไป 57,600 บาท

คดีถึงที่สุด ศาลพิพากษาจำคุก สิบเอก พลกฤต ฐานฆ่าผู้อื่น 33 ปี 4 เดือน และฐานซ่อนเร้นทำลายศพอีก 7 เดือน รวมต้องโทษจำคุก 33 ปี 11 เดือน และให้ชดใช้เยียวยาผู้เสียหายเป็นเงิน 1.5 ล้านบาท

แต่ไปๆ มาๆ ได้รับการลดโทษ เหลือจำคุก 8 ปี 11 เดือน 17 วันเท่านั้น และที่ทำร้ายจิตใจอย่างที่สุด น.ช.พลกฤตกำลังจะได้รับการพักโทษ ออกมาภัยสังคมนอกคุกแล้ว ทั้งที่ติดคุกจริงแค่ 4 ปี 6 เดือนเท่านั้น

เรื่องนี้ คนจุดกระแส รวมพลฟ้องสังคมให้รับรู้ คือ นางพัชรี ปั้นทอง มารดาของน้องพลอย พร้อมด้วยนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ รมว.ยุติธรรม เพื่อคัดค้านการพักโทษ น.ช.พลกฤต

กลายเป็นข่าวสะเทือนกระบวนการยุติธรรม ระดับ 10 ริกเตอร์ โซเชียลรุมถล่มกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม จนเละ หลายคนก็จดจำได้ ว่ากรณีจัดโปรลดโทษแบบนี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก

นายสมชาย แสวงการ ส.ว.คนดัง โพสต์ฟาดแรงๆ ว่า “เผาศาลากลางตลอดชีวิตติด 6 ปี จำนำข้าวคุก 50 ปี ติด 6 ปี เผานั่งยางคุก 33 ปี ติด 4 ปี ชักคล้อยตามคนสงสัยแล้ว #คุกมีไว้ทำไม #เอาไว้ขังคนจนกับหมาจริงหรือ”

นายณรงค์ จุ้ยเส่ย รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ จึงออกมาชี้แจงว่า น.ช.พลกฤต ได้ยื่นขอพักโทษจริง ตามสิทธิที่สามารถกระทำได้ แต่ทางกรมราชทัณฑ์ ก็ไม่ได้อนุมัติให้แต่อย่างใด

มีเหตุผลประกอบการพิจารณามากมาย ที่ น.ช.พลกฤต จะไม่ได้รับการพักโทษ เช่น ยังไม่ได้แสดงความสำนึกผิดต่อการกระทำ ยังไม่ผ่านการพัฒนาพฤตินิสัย พฤติการณ์แห่งคดียังมีผลกระทบต่อผู้เสียหายและสังคม

สรุปจากปากรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ก็คือ น.ช.พลกฤต จะต้องถูกคุมขังจนกว่าจะครบกำหนดโทษตามคำพิพากษาของศาล

ทั้งนี้ น.ช.พลกฤต ถูกนับโทษตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. 2560 คดีถึงที่สุด วันที่ 15 ม.ค. 2563 วันพ้นโทษ 12 ก.ค. 2594

เข้าคุกครั้งแรก ที่เรือนจำจังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2560 ก่อนย้ายไปเรือนจำกลางบางขวาง เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2561

เริ่มต้นชีวิตนักโทษ ด้วยการเป็นนักโทษชั้นกลาง เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2563 นักโทษชั้นดี เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2563 นักโทษชั้นดีมาก เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2563 และนักโทษชั้นเยี่ยม เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2564 จนถึงปัจจุบัน

ซึ่งตรงนี้ เกิดความผิดปกติในการเลื่อนชั้นนักโทษ ช่วงจากดีไปเป็นดีมาก และชั้นดีมากไปชั้นเยี่ยม เพราะโดยทั่วไป จะพิจารณาเลื่อนชั้นตอนกลางปีกับตอนปลายปีเท่านั้น แต่รายของ น.ช.พลกฤต มีเติมช่วงเดือน ต.ค. และจากนั้นอีก 3 เดือนก็ได้เลื่อนอีก เหมือนขึ้นลิฟต์ แต่คนอื่นขึ้นทางบันไดุ

ส่งผลให้เขาเลื่อนชั้นไวสุดๆ จากชั้นกลางไปถึงชั้นเยี่ยม ในเวลาเพียงปีเดียว เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้นักโทษอำมหิตรายนี้ ได้รับการลดโทษแบบฮวบฮาบ

ได้รับการพระราชทานอภัยโทษ 4 ครั้ง ดังนี้ ได้อภัยโทษ 63/1 โทษเดิม จำคุก 33 ปี 11 เดือน เหลือโทษ 27 ปี 1 เดือน 3 วัน

ได้อภัยโทษ 63/2 เหลือโทษ 20 ปี 3 เดือน 16 วัน ได้อภัยโทษ 64/1 เหลือโทษ 13 ปี 8 เดือน 23 วัน และครั้งล่าสุด ได้อภัยโทษ 64/2 เหลือโทษ 8 ปี 11 เดือน 17 วัน

จำมาแล้ว 4 ปี 7 เดือน 1 วัน (นับจากวันที่ 14 มี.ค. 2565) เหลือจำต่อไป 4 ปี 4 เดือน 16 วัน จะพ้นโทษวันที่ 29 ก.ค. 2569

เมื่อได้รับการลดโทษรัวๆ น.ช.พลกฤต จึงยื่นขอพักโทษเมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2565 จากนั้นเป็นขั้นตอนสืบเสาะความเห็นของฝ่ายผู้เสียหาย

แล้วนำมาเข้าที่ประชุมใหญ่ คณะทำงานเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักโทษการลงโทษประจำเรือนจำ ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากสำนักงานและกรมต่างๆ รวม 7 คน

ซึ่งผลก็คือ น.ช.พลกฤต ไม่ผ่านการพิจารณาให้ได้รับการพักโทษแต่อย่างใด จากพฤติการณ์แห่งคดี การฆ่าผู้อื่น อย่างทารุณโหดร้าย

โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่สุด ที่เป็นหมัดน็อค ไม่มีทางที่ น.ช.พลกฤต จะผ่านการพิจารณานี้ไปได้เลย นั่นคือ การไม่เคยจ่ายเงินเยียวยา 1.5 ล้านบาท ให้แก่ผู้เสียหายตามคำพิพากษา

ไม่ว่านักโทษหน้าไหน หากไม่ทำตามเงื่อนไขเยียวยาตามศาลสั่ง ก็จะหมดสิทธิ์ได้รับการพักโทษทุกรายไป