ทนายรัชพล เข้าแจ้งความและยื่นหนังสือ 3 ข้อ ต่อ ผกก.สภ.เมืองนนท์ แจ้งข้อหาก๊วนเรือสปีดโบ๊ตไม่ยอมตรวจสารเสพติด เน้นการสอบทำร้ายร่างกาย นำพยานเข้าเครื่องจับเท็จ
วันนี้ (15 มี.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี อ.เมือง จ.นนทบุรี ทนายรัชพล ศิริสาคร เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อแจ้งความและยื่นหนังสือ 3 ข้อ คือ 1. ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีกับแก๊งสปีดโบ๊ต ที่ไม่ยอมตรวจยาเสพติด ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายยาเสพติด มีโทษจำคุกสามารถดำเนินคดีก่อนได้เลย โดยไม่ต้องรอคดีแตงโม เพราะเป็นคนละคดีกัน 2. จะขอให้เน้นการสอบสวนประเด็นการทำร้ายร่างกายด้วยการขับเรือกระชาก เพราะอาจจะมีการทะเลาะกันบนเรือ แตงโมอาจไม่ทราบมาก่อนว่าจ็อบกับเบิร์ตมาลงเรือด้วย และแตงโมเอากระเป๋ามาวางกีดกันที่ร้านอาหาร แสดงว่า อาจขัดแย้งกันตั้งแต่ร้านอาหารแล้ว 3. ขอให้ช่วยเร่งรัดนำพยานทั้ง 5 คน เข้าเครื่องจับเท็จ เพื่อนำข้อมูลมาประกอบคดี
ทนายรัชพล กล่าวว่า วันนี้มาเพื่อจะแจ้งความในส่วนการกล่าวโทษ ในฐานะผู้เสียหายและพลเมืองดี ซึ่งคนในเรือบางคนไม่ยอมตรวจเรื่องยาเสพติด ไม่เข้าใจว่า ทำไมไม่ดำเนินคดี หรือมีอะไรที่ปิดบังอยู่หรือไม่ หรือติดที่ทุกคนมีเงิน จึงจะแจ้งเรื่อง พ.ร.บ.ยาเสพติด เพราะเป็นเหตุอันควรสงสัยให้เข้ามาสอบเพิ่มและตรวจยาเสพติด เนื่องจากมีการเสียชีวิตบนเรือ ซึ่งการตรวจไม่ใช่เรื่องไกลเกินไป จึงนำกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ ถ้าผู้ใดไม่ให้การตรวจสารเสพติด และมีสารเสพติดจะโดนทั้งจำและปรับ ทำไมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดำเนินคดี อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปสอบสวนเพื่อดำเนินคดี เพราะเรื่องนี้เป็นคนละส่วนกัน ไม่ต้องรอการชันสูตรศพ
ส่วนอีกข้อเป็นสมมติฐานของตน ว่า แตงโมอาจไม่ทราบว่าโรเบิร์ตกับจ็อบมาด้วยหรือป่าว หรือว่ามีการทะเลาะกันบนเรือหรือไม่ เพราะการนั่งในร้านอาหาร มีการวางกระเป๋าคั่นไว้ อาจจะเกิดการไม่พอใจและทะเลาะกันบนเรือ ส่วนการทำร้ายร่างกาย รอบแรกบอกไม่มีบาดแผล ซึ่งตนมองว่าอาจจะมีเจตนาการกระชากเรือให้หล่นหรือล้มจนตกเรือ จะให้เชื่อเป็นอุบัติเหตุก็ไม่น่าเชื่อถือ เพราะว่ามีพิรุธอยู่หลายอย่าง คิดว่า อาจจะมีการขัดแย้งกันบนเรือ ส่วนเรื่องเครื่องจับเท็จ ตนจึงเดินทางมาเร่งรัดให้เข้าเครื่องจับเท็จให้ชัดเจน วันนี้จะแจ้งตำรวจเรื่องไม่ให้ตรวจสารเสพติด ตอนนี้ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูว่าจะมีการดำเนินคดีหรือไม่ตนจะติดตามอยู่ตลอดเวลา และอยากให้สอบสวนเรื่องการทำร้ายร่างกายด้วย ซึ่งเครื่องจับเท็จอาจจะใช้ไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็อาจจะช่วยได้เล็กน้อย