MGR Online - โฆษก ตร.เผย ผบ.ตร.สั่ง ผบช.ก.นำกำลังไล่ล่า “จำรัส” มือปืนยิงตำรวจเสียชีวิต เหตุปะทะเดือดเขาชัยสน ปูนบำเหน็จ “ด.ต.อนันต์” 5 ขั้น 4 ชั้นยศ เป็น “พ.ต.ต.” พร้อมมอบเงินสวัสดิการดูแลครอบครัว
วันนี้ (10 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อเย็นวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุตำรวจกองปราบปราม 8 นาย ขับรถฟอร์ด 4 ประตู ติดตามจับกุม นายจำรัส รักจันทร์ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาฆ่าผู้อื่นตามหมายจับของ สภ.ป่าบอน จ.พัทลุง มือปืนตามประกาศจับสำนักงานตำรวจแห่งชาติลำดับ 145 ซี่งมีส่วนพัวพันในคดียาเสพติด
ทั้งนี้ ปฏิบัติการไล่ล่า เริ่มตั้งแต่บริเวณหน้าวัดบวงช้าง ม.7 ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง เพื่อจับกุมตัวคนร้ายตามหมายจับ แต่ปรากฏว่า คนร้ายขัดขืน ยิงปะทะกับคนร้ายบริเวณใกล้สี่แยกบ้านท่านางพรหม ถนนสายสี่แยกบ้านท่านางพรหม-ท่าควาย ม.6 ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ทำให้ตำรวจบาดเจ็บและเสียชีวิต โดย ด.ต.อนันต์ มีแสง ผบ.หมู่ กก.6 บก.ป. ถูกกระสุนปืนเข้าศีรษะ ขณะที่ ด.ต.ชัชชัย พันธอู ผบ.หมู่ กก.6 บก.ป. ถูกยิงแขนขวาได้รับบาดเจ็บ และมีนายตำรวจ ที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 1 นาย คนร้ายถูกวิสามัญ 1ราย ส่วนนายจำรัส คนร้ายรายสำคัญยังหลบหนี
โฆษก ตร.กล่าวว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้รับรายงานเหตุดังกล่าวแล้วได้สั่งการให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม นำกำลังชุดปฎิบัติการพิเศษ “หนุมาน” ลงพื้นที่เพื่อเร่งรัดติดตามคนร้าย รายดังกล่าวให้ได้โดยเร็ว พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการทุกนายให้ปฏิบัติการตามหลักยุทธวิธี อย่าประมาท เพื่อป้องกันการสูญเสีย
ด้าน พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานกำลังพล (ผบช.สกพ.) กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และห่วงใยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมทั้งสั่งการให้ดูแลด้านสวัสดิการ ปูนบำเหน็จให้กับ ด.ต.อนันต์ มีแสง ผบ.หมู่ กก.6 บก.ป. ตำรวจนายที่เสียชีวิต 5 ขั้น 4 ชั้นยศเป็น เลื่อนยศเป็น “พันตำรวจตรี”
ผบช.สกพ.กล่าวว่า สำหรับ ด.ต.อนันต์ มีแสง ยังจะได้เงินสวัสดิการเบื้องต้นเงินจากกองทุนสวัสดิการ จำนวน 500,000 บาท และยังมีเงินสวัสดิการจากส่วนอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ส่วน ด.ต.ชัชชัย ถูกยิงแขนขวาบาดเจ็บ และตำรวจอีกหนึ่งนายที่บาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วทั้ง 2 นาย กองสวัสดิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ช่วยเหลือรายละ 40,000 บาท