แม่แตงโม โผล่ให้ข้อมูลเพิ่มเติม เห็นนักข่าว หน้ามืด ขอดมยาแปบ ปัดขายสมบัติลูกกิน รับยังจ้างทนายกฤษณะ หลังเกิดกระแสข่าวขุดประวัติ ยืนยันให้อภัยโรเบิร์ตหลังรับสารภาพขับเรือกระชากทำลูกสาวตกน้ำ
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 9 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศความคืบหน้า “คดีแตงโม” วันนี้นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่แตงโม นิดา เดินทางมายังโรงพัก สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อเข้าพบหัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ในการให้ปากคำข้อมูลเพิ่มเติมในคดีการเสียชีวิตปริศนาของลูกสาว “แตงโม นิดา” พร้อมทั้งชี้แจงถึงประเด็นยังจะจ้าง “ทนายกฤษณะ” ดูแลคดีต่อไปหรือไม่ หลังถูกออกมาแฉอดีตว่าเคยมีคดีฉ้อโกง
นางภนิดา กล่าวว่า ในวันนี้ตนเดินทางมาพบหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อเข้าให้ปากคำข้อมูลเพิ่มเติมตามที่ได้นัดหมายกันเอาไว้ แม้ว่าอาการจะไม่สู้ดีนัก เนื่องจากความดันขึ้น เรื่องกระเป๋าแบรนด์เนมของน้องโม ที่มีกระแสข่าวออกไปว่าแม่เอากระเป๋าไปขายนั้น ก็ไม่เป็นความจริง
นางภนิดา กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่อง “ทนายกฤษณะ” ทนายความที่ตนได้แต่งตั้งให้มาดูคดีน้องโมนั้น มีผู้ใหญ่คนหนึ่งแนะนำมาตั้งแต่ตอนเกิดเหตุแล้ว ได้มีการพูดคุยเรื่องงานกันก็เห็นว่าเขาเป็นคนทำงานดี ทำงานไว และสุภาพ แม่จึงตัดสินใจว่าจ้างให้เขามาเป็นทนายความดูแลคดีนี้อย่างเป็นทางการ
นางภนิดา กล่าวเสริมต่ออีกว่า ส่วนเรื่องที่ ทนายกฤษณะ นั้น จะมีประวัติอะไรมาก็ตาม เป็นเรื่องอดีตของเขา เพราะทุกคนก็มีอดีตเคยผิดพลาดด้วยกันทั้งนั้น เหมือนกับพ่อของโมก็เคยมีประวัติล้มละลายมาก่อนแล้วเช่นกัน ตนจึงไม่ได้มองดูอดีต และยืนยันว่า จะให้ทนายกฤษณะเป็นทนายความใน “คดีแตงโม” ต่อไป
ส่วนเรื่องที่ “โรเบิร์ต” ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นคนขับเรือแล้วขับกระชากจนอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้น้องโมพลัดตกเรือ จนจมน้ำเสียชีวิตนั้น แม่เองยังไม่เห็นข่าวนี้ ซึ่งถ้าเป็นตามคำให้การจริง แม่ก็พร้อมให้อภัย เพราะเขารู้สึกสำนึกและมากราบเท้าขอโทษแม่จริงๆแล้ว แม่ก็ให้อภัย ส่วนเรื่องคดีนั้นไม่เกี่ยวเป็นคนละเรื่องกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ นางภนิดา หรือ แม่แตงโม เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สภ.เมืองนนทบุรี ได้ถูกกลุ่มผู้สื่อข่าวรุมสัมภาษณ์ สอบถามถึงในประเด็นต่างๆ จนทำให้ นางภนิดา ถึงกับมีอาการหน้ามืด ความดันขึ้น คล้ายจะเป็นลม ก่อนที่จะลงมานั่งพักบนเก้าอี้ชั้น 2 หน้าห้องพนักงานสอบสวน ได้ควักยาดม ยาหอม ออกมาดม พร้อมกินยาลม เพื่อบรรเทาอาการให้ดีขึ้น จากนั้นจึงได้รับแจ้งว่าให้เดินทางไปพบกับหัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งรออยู่ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แล้ว