MGR Online - ผบ.ตร.เรียกทีมสืบสวนคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา” รายงานความคืบหน้า ยังไม่สรุปสำนวนคดี รอผลทางนิติวิทยาศาสตร์จากหน่วยงานภายนอก ยันจากพยานหลักฐาน ยังเป็นเรื่องกระทำโดยประมาท ไม่บ่งชี้ถึงการฆาตกรรม ไม่พบดาราสาวรับงานเอนเตอร์เทน เผย เบิร์ตรับขับเรือกระชาก ทำแตงโมตกท้ายเรือ
วันนี้ (8 มี.ค.) เมื่อเวลา 17.15 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงภายหลัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เรียกคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เข้ารายงานความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ โดยระบุว่า ขณะนี้ พนักงานสอบสวน สอบปากคำพยานไปแล้ว 77 ปาก พร้อมทบทวนหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ กล้องวงจรปิด 60 ตัว และคลิปวิดีโอประมาณ 20 คลิป ซึ่งมีทั้งที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ โดยภาพรวมผลเป็นที่น่าพอใจ
พล.ต.ต.อุดร กล่าวว่า จากคำให้การของบุคคลที่อยู่ในเรือหลายครั้ง ทำให้พอจะเห็นภาพขณะเกิดเหตุ ตั้งแต่คำให้การของ นายไพบูลย์ ศรีกาญจนานันท์ หรือ โรเบิร์ต ที่ยอมรับว่า ขับเรือไม่เป็น แต่อยากลองขับเรือ ทำให้มีจังหวะที่เรือกระชาก ขณะใช้ความเร็ว 8 นอต จนทำให้แตงโมพลัดตกเรือบริเวณกราบซ้ายด้านใต้ หลังทำธุระส่วนตัว และพยายามลุกขึ้นมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที จึงมีการส่งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ไปสอบทานกับภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อยืนยันเพิ่มเติมว่า บาดแผลของแตงโม เกิดก่อนหรือหลังเสียชีวิต เพราะมีผลต่อการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่า อีกประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะทราบผล
“ในที่ประชุมได้มีการต่อสายโทรศัพท์ไปหาแซน เพื่อให้เล่าเหตุการณ์ ว่ารู้สึกหรือไม่ ตอนที่แตงโมมานั่งฉี่ เสร็จแล้วพยายามลุก และมีความรู้สึกว่าเรือกระตุก เมื่อเรือกระตุกก็มีการเอียงตัวหลุดจากขาและตกลงไป ซึ่งตอนนั้นเกิดเหตุการณ์ขึ้นเร็วมาก เพราะเขาก็นั่งๆ นอนๆ อยู่ท้ายเรือ ดูแชต ดูดาว สลับกันไปบ้าง เป็นช่วงวินาทีที่เร็วมาก แต่ยืนยันว่า มาท้ายเรือและบอกว่าฉี่ ซึ่งจ๊อบเห็น” พล.ต.ต.อุดร กล่าว
พล.ต.ต.อุดร กล่าวต่อไปว่า เกี่ยวกับประเด็นนี้ ผบ.ตร.สั่งให้จำลองเหตุการณ์ เพื่อให้เกิดความแน่ชัดอีกครั้ง เนื่องจากยังมีประเด็นเรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ หลังการค้นบ้านของนายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือ จ๊อบ พบเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ที่เชื่อว่า เป็นของที่ใช้ดื่มกินบนเรือวันเกิดเหตุ และผู้ที่อยู่บนเรือทุกคน ให้การตรงกันว่า วันเกิดเหตุมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จริง ส่วนที่มีการทิ้งแก้วเครื่องดื่ม สันนิษฐานว่า เกิดจากความกลัว ในทำนองเดียวกับการเมาแล้วขับ จึงพยายามทำลายหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และมีการนัดแนะคำให้การหลังเกิดเหตุ แต่เชื่อว่า ทุกคนต้องได้รับผลแห่งการกระทำ
ส่วนประเด็นคลิปวงจรปิดบริเวณท่าเรือเทเวศร์ พล.ต.ต.อุดร กล่าวว่า คลิปบริเวณท่าเรือเทเวศร์ในช่วงเวลา 21.40 น. แต่ช่วงเวลาที่ตั้งโดยใช้จีพีเอสของเรือค่อนข้างชัดเจนว่า ถ้าผ่านสะพานพระราม 5 สะพานพระราม 7 สะพานพระราม 8 ซึ่งก่อนสะพานพระราม 8 จะเป็นท่าเรือเทเวศร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลา 21.40 น. แต่ช่วงเวลาที่เชื่อว่าจะเสียชีวิต คือ ช่วงเวลา 22.32-22.34 น. ฉะนั้น การที่จะจับโยนหรือทิ้งอย่างที่มีใครบางคนพูด ผมว่าเป็นไปไม่ได้โดยสิ้นเชิง
“เชื่อว่า วันหนึ่งทางกรรมาธิการ หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ก็จะเชิญบุคคลซึ่งเชื่อว่าคดีนี้จะต้องมีการโต้แย้งในอนาคต ไม่ว่าประเด็นอะไรก็ตามที่ตำรวจได้สรุปไป หรือแม้กรณีที่ทนายได้ดูรายละเอียดที่เราแถลงข้อเท็จจริงในคดีทั้งหมด ข้อเท็จจริงที่จะถูกบันทึกและถูกโต้แย้งในชั้นศาล ซึ่งเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน หากเราเข้าใจในกระบวนการยุติธรรมและเชื่อมั่นเราจะไปด้วยกันได้ โดยเฉพาะการให้ความเป็นธรรมกับคนตาย ซึ่งคนตายไม่มีโอกาสได้พูด ฉะนั้น การรวบรวมพยานหลักฐานจะทำให้ทราบว่าใครทำให้น้องตาย ตายด้วยอุบัติเหตุ ตายด้วยความประมาท หรือตายด้วยเจตนา เป็นสิ่งที่พวกเราต้องช่วยกัน” รอง ผบช.ภ.1 ระบุ
พล.ต.ต.อุดร กล่าวด้วยว่า จากพยานหลักฐานที่พบขณะนี้ ยังไม่ปรากฏว่า แตงโมรับงานเอนเตอร์เทน ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่า ผู้ต้องหาประสงค์จะบวชนั้น เมื่อได้รับการประกันตัว ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ก็มีสิทธิที่จะบวชได้ แต่ขึ้นอยู่กับทางวัดว่าจะอนุญาตหรือไม่ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ หากมีความจำเป็นอาจจะมีการเรียกบุคคลบนเรือมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีก หากมีการบวชจริง ก็ไม่ได้รับการยกเว้น
ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากพยานหลักฐานในขณะนี้ แนวโน้มทางคดีเป็นการประมาททำให้มีความตาย โดยยังไม่บ่งชี้ถึงการฆาตกรรม อีกทั้งพยานหลักฐาน ยังไม่ปรากฏว่า มีการใช้ยาเสพติด ทั้งผู้ที่อยู่บนเรือและผู้เสียชีวิต จึงยังไม่มีการแจ้งข้อหาใครเพิ่มเติม แต่เพื่อให้สังคมสิ้นข้อสงสัย พนักงานสอบสวน ยังรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการ ทำให้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า จะมีการแถลงปิดคดีเมื่อใด