xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : สถานีต่อไปของ “มิ่งขวัญ”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 ตอน สถานีต่อไปของ “มิ่งขวัญ”



“เดี๋ยวเจอกันเลือกตั้งครั้งหน้า” คือประโยคที่ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ประกาศไว้ต่อหน้า บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการประชุมอภิปรายทั่วไปรัฐบาลในวันแรก

เป็นการบ่งบอกว่า แม้จะลาออกจากสภาผู้แทนราษฎร แต่เส้นทางทางการเมืองของ มิ่งขวัญ จะยังไม่จบเท่านี้ แต่ในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะยังมีชื่อของเขาโลดแล่นอยู่

เพียงแต่สถานีต่อไปของ มิ่งขวัญ จะเป็นที่ไหนเท่านั้น

แน่นอนว่า บ้านหลังใหม่ของ มิ่งขวัญ ไม่น่าจะใช่บ้านหลังเล็ก เหมือนกับพรรคเศรษฐกิจใหม่ เพราะการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา มันให้บทเรียนอะไรกับเขามากพอสมควร

เหตุที่มิ่งขวัญยังมีทางเลือกทางการเมืองหลายช่องทาง เพราะชื่อ มิ่งขวัญ ยังคงขายได้ เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมากระแสของเขา สามารถพา ส.ส. เข้าสภาได้ถึง 6 ที่นั่ง โดยไม่ต้องเปลืองแรงอะไรมาก นอกจากการตระเวนแสดงวิชั่น อันเป็นจุดเด่นของตัวเอง

ขณะเดียวกัน มิ่งขวัญ จะไม่แสดงวิสัยทัศน์ในเวทีเล็กๆ แต่มักจะโผล่ไปโชว์กึ๋นในเวทีเดียวกับที่มีบิ๊กเนมไปร่วม ไม่ว่าจะเป็นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคอนาคตใหม่ ตลอดจน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์

มิ่งขวัญ รู้ว่า กระแสของตัวเองขายได้ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ เขาจึงใช้วิธีการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อหาคะแนนจากฝ่ายเสื้อคลุมประชาธิปไตย

นั่นคือ เคล็ดลับของ มิ่งขวัญในตอนนั้น

แม้ มิ่งขวัญ จะพา ส.ส.เข้าสภาได้ถึง 6 ที่นั่ง ด้วยกระแสของตัวเอง หากแต่ 6 ที่นั่งของเขาไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่ มิ่งขวัญ ปรารถนาได้ นั่นคือ การเป็นเสนาบดีฝ่ายเศรษฐกิจ

ช่วงแรกพรรคเศรษฐกิจใหม่ถูกจีบให้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ บรรดาลูกพรรคต่างอยากจะไปร่วมเป็นรัฐบาล เพราะรู้ว่า การเป็นฝ่ายค้านนั้นเท่ แต่อดอยากปากแห้ง

ทว่า มิ่งขวัญ เป็นพวกหน้าบาง เพราะออกตัวแรงตอนหาเสียงว่าจะไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ พอจะกลับลำก็ไม่กล้ากลืนน้ำลายตัวเอง จึงตัดสินใจปฏิเสธ

พรรคพลังประชารัฐจึงเลิกล้มดีล และจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีพรรคเศรษฐกิจใหม่ แต่ขณะเดียวกัน คนในฝั่งรัฐบาลรู้ว่าดีว่า อีก 5 ชีวิต ของพรรคเศรษฐกิจไม่ประสงค์จะอยู่ฝ่ายค้าน จึงมีการพยายามผูกมิตรเพื่อขอเสียงสนับสนุนในสภา

กระทั่ง 5 ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ตัดสินใจลอยแพ มิ่งขวัญ และหันไปสวามิภักดิ์กับฝั่งรัฐบาลในที่สุด

มิ่งขวัญ กลายเป็นคนโดดเดี่ยว ต้องไปอาศัยเวลาของพรรคเพื่อไทย และฝ่ายค้านอื่นๆ เพื่ออภิปรายรัฐบาล แต่การอยู่หัวเดียวกระเทียมลีบ มันไม่เปล่งแสงเหมือนตอนมี ส.ส.อยู่ในกำมือ จากนั้นบทบาทของเขาก็ค่อยๆ หายไป

การอยู่แบบนี้เหมือนอยู่ไปวันๆ มิ่งขวัญ จึงรีบปลีกตัวออกไปหาสังกัดใหม่ เตรียมตัวไว้ก่อนการเลือกตั้ง 90 วัน เพื่อให้คุณสมบัติครบดีกว่า

อีกประการหนึ่งคือ มิ่งขวัญ คงไม่ทำพรรคการเมืองเองอีกแล้ว เพราะพรรคเล็กไม่สามารถตอบโจทย์ให้ตัวเองได้ แม้จะได้เข้าสภาอีกครั้ง แต่หากได้เป็นแค่ ส.ส. เบอร์ขนาดเขาคงไม่โอเค

เมื่อเป็นเช่นนี้ บ้านหลังใหม่ หรือสถานีต่อไปของ มิ่งขวัญ จึงน่าจะหลังใหญ่โตพอสมควร เพื่อเป็นบันไดให้กลับเข้าไปเป็นรัฐมนตรีอีกครั้ง

หากแต่คงไม่ใช่พรรคเพื่อไทย เพราะหากกลับมาบ้านหลังเก่า ต้องต่อสู้แย่งชิงกับบรรดาก๊กต่างๆ ภายในพรรค ซึ่งเขารู้บทเรียนดี ว่าหากมาตัวเปล่าเล่าเปลือยก็จะเจออะไรเดิมๆ อีก

พรรคเพื่อไทยอาจเป็นพรรคใหญ่ กระแสนิยมดี แต่อย่างที่รู้กันว่า ต่อให้กวาด ส.ส.ในการเลือกตั้งมากขนาดไหน แต่ยังมีด่าน ส.ว. 250 คนอีก มีโอกาสจะเป็นฝ่ายค้านอีกสมัยเหมือนกัน

ขณะที่พรรคเศรษฐกิจไทย ที่มีข่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และ ไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ลูกน้องคนสนิท ทาบทามไปแล้วนั้น ตอนนี้ยังไม่มีอะไรแน่นอนว่า จะเป็นเพียงพรรคเฉพาะกิจ หรือเอาจริงในการเลือกตั้งครั้งหน้า ฉะนั้น ยังไม่มีอะไรแน่นอน

ในส่วนของพรรคสร้างอนาคตไทย แม้ มิ่งขวัญ จะเริ่มงานการเมืองด้วยการมาช่วย สมคิด ในยุคพรรคไทยรักไทย หากแต่ปัจจุบันสถานะของคนสองคนนี้ไม่เหมือนเดิม แต่ถึงขั้นแตกหักกันไปแล้ว อีกทั้ง จะต้องมาหารแบ่งเก้าอี้เศรษฐกิจกับทั้ง อุตตม และ สนธิรัตน์ อีก

พรรคที่มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่สุด จึงหนีไม่พ้นพรรคไทยสร้างไทยของ เจ๊หน่อย เพราะสองคนนี้เคยทำงานร่วมกันมา ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

อีกทั้งยังมีข่าวว่า ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร จะเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งทั้ง 3 คน นี้จูนกันติดง่าย

ที่สำคัญที่สุดคือ พรรคไทยสร้างไทย ยังไม่มีมือเศรษฐกิจเจ๋งๆ มีแต่นักการเมืองชื่อดังด้านอื่น ถ้า มิ่งขวัญ มา แน่นอนว่า หัวหน้าทีมเศรษฐกิจต้องตกไปอยู่กับเขา

มิ่งขวัญ จะเป็นตัวชูโรงด้านเศรษฐกิจของพรรค ในขณะที่พรรคไทยสร้างไทยเอง สามารถไปได้ทุกขั้วทางการเมือง การันตีการเป็นรัฐบาลให้ได้

สถานีต่อไปของ มิ่งขวัญ จึงน่าจะเป็นพรรคไทยสร้างไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น