ตำรวจสืบสวนนครบาลจับสาววัย 29 ปี นายหน้าหาคนเปิดบัญชีผ่านแอปฯธนาคาร ก่อนขายบัญชีต่อให้มิจฉาชีพนำไปใช้หลอกเหยื่อขายสินค้าออนไลน์
วันนี้ (21 ก.พ.) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.บช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ พ.ต.ท.วสุเทพ ใจอินทร์ พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฎศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.พิทักษ์ ศรีกะแจะ สว.กก.วิเคราะห์ฯ พร้อมกำลัง ชุดปฏิบัติการที่ 3 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. จับกุม น.ส.เมย์ษาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงดอนเมือง ที่ 224/2564 ลง 30 ธ.ค. 2564 ข้อหา “ฉ้อโกง” จับกุมได้ที่ บ้านพักอาศัยที่ จ.กาฬสินธุ์
สืบเนื่องจาก น.ส.เมย์ษาพร ขายบัญชีธนาคารของตนเองไปให้กลุ่มมิจฉาชีพได้นำไปหลอกขายสินค้าทางโลกออนไลน์ จนถูกผู้เสียหายแจ้งความข้อหาฉ้อโกงในที่สุด ต่อมาชุดสืบสวนสืบทราบมาว่า น.ส.เมย์ษาพร ยังป็นนายหน้าตัวกลางในการซื้อ-ขายบัญชีธนาคาร ให้แก่บุคคลอื่นอีกมากมาย จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำการออกหมายจับน.ส.เมย์ษาพร ข้อหาฉ้อโกง
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการที่ 3 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ได้สืบทราบว่า น.ส.เมย์ษาพร ได้กลับไปกบดานที่บ้านเกิด จ.กาฬสินธุ์ จึงนำกำลังตรวจสอบจนกระทั่งจับกุมตัวได้ดังกล่าว ส่งพนักงานสอบสวนสน.ทุ่งสองห้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบสวน น.ส.เมย์ษาพร สารภาพว่า หลังจากที่ได้ขายบัญชีของตนเองให้กับมิจฉาชีพเอาไปหลอกขายสินค้าจนถูกขึ้น blacklist ในโลกออนไลน์แล้ว จึงทำให้บัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของตนเองนั้น ไม่สามารถขายได้อีกต่อไป เพราะไม่มีใครรับซื้อ จึงผันตัวเป็นนายหน้าจัดหาบัญชีให้กับกลุ่มมิจฉาชีพอีกทอดหนึ่ง โดยรับซื้อมาในราคา 400-500 บาท และนำไปขายต่อในราคา 1,000-3,000 บาท ทำมาได้ประมาณ 2-3 เดือน
ซึ่งธนาคาร 2 แห่ง จะมีราคาแพงที่สุดเพราะใช้งานง่ายและดูน่าเชื่อถือ หรือเจ้าของบัญชีไม่มีประวัติเคยถูกแจ้งความฉ้อโกง มีทั้งสมุดบัญชีและบัตรเอทีเอ็มก็จะมีราคาที่สูงขึ้นตามลำดับ โดยเริ่มแรกหาจากบัญชีคนใกล้ตัว ตลอดจนประกาศรับซื้อในกลุ่มซื้อ-ขายบัญชี ใน facebook ซึ่ง
น.ส.เมย์ษาพร ให้การเพิ่มอีกว่า หลังจากที่หลายๆธนาคารมีการเปิดบัญชีแบบออนไลน์ได้ ทำให้การรับซื้อ-ขายบัญชีนั้น สะดวกขึ้นอย่างมาก ซึ่งผู้ขายไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเปิดบัญชีที่ธนาคารด้วยตนเอง แค่ส่งรูปบัตรประชาชนให้กลุ่มมิจฉาชีพนำไปสมัครผ่านแอปฯธนาคาร จากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพจะส่ง QR CODE ให้ผู้ขายไปยืนยันตัวตนที่ 7-11 หลังจากยืนยันตนเสร็จจะมีรหัส OTP ส่งไปให้ที่เบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับบัญชีธนาคารซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพเตรียมไว้แล้ว
จากนั้นกลุ่มมิจฉาชีพจึงได้แจ้งรหัส OTP ให้ผู้ขายกรอกในระบบที่ร้าน 7-11 เป็นอันแล้วเสร็จ กลุ่มมิจฉาชีพจะได้ใช้บัญชีนี้ผ่านแอปพลิเคชันธนาคาร โดยไม่จำเป็นต้องมีบัตร ATM หรือ สมุดบัญชี โดยขั้นตอนดังกล่าว น.ส.เมย์ษาพรให้การว่าใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวฯบก.สส.บช.น. พบว่า น.ส.เมย์ษาพร ได้มีการซื้อ-ขาย บัญชีเหล่านี้ไปไม่น้อยกว่า 50 บัญชี คาดว่า น่าจะทำมาแล้วมากกว่า 2-3 เดือน ทั้งนี้ หากทางธนาคารยังไม่มีมาตรการอะไรมาควบคุมตรวจสอบการเปิดบัญชีในรูปแบบนี้ ในอนาคตธุรกิจประเภทนี้ก็คงจะมีปริมาณที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนทั่วไปอย่างมากมาย