รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 18 ก.พ.65 นำเสนอรายงานพิเศษ แฮ็ก FB น้องไปตุ๋นเงินพี่ จนมุมมือปราบไซเบอร์
เว็บไซต์ “ฉลาดโอน” แสดงบทบาทสุดเจ๋งออกมาแล้ว ในการดำเนินคดีกับโจรไซเบอร์รายล่าสุด เมื่อตำรวจตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องหาผ่าน “ฉลาดโอน”
แล้วปรากฏว่า พบประวัติที่เคยถูกร้องเรียนพฤติกรรมฉ้อโกง เด้งออกมาถึง 7 เรื่อง ยืนยันว่าตำรวจมาถูกทาง จับไม่ผิดตัวแน่
โจรไซเบอร์ที่โดน “ฉลาดโอน” สอยร่วงรายนี้ ชื่อนายอมรเทพ หรือเวย์ ทับทิมเมือง อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาธนบุรี ที่ จ.385 / 2564 สน.ท่าข้าม ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2564
ความดวงกุดของนายอมรเทพ ดันมาล่าเหยื่อในพื้นที่ บก.น.8 ซึ่งมีมือปราบไซเบอร์คนดังประจำอยู่ในท้องที่พอดี คือ พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยม ผกก.กก.สส.บก.น.8
นายตำรวจคนนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นคนผลักดันให้สร้างเว็บไซต์ “ฉลาดโอน” จนเกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ สร้าง “ฉลาดโอน” ออกมาได้อย่างสุดเจ๋ง กลายเป็นกระแสฮือฮาไปทั่วเมื่อไม่กี่วันก่อน
สำหรับพฤติการณ์ของนายอมรเทพ เข้าไปแฮ็กเฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า “บ่าวนาวารา” มาได้ แล้วเริ่มลงมือเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2564
ด้วยการสวมรอยเป็น “บ่าวนาวารา” ซึ่งทำธุรกิจซื้อขายทุเรียน แชทไปหานางมัลลิกา ตังสุรัตน์ อายุ 54 ปี ผู้เป็นพี่สาวของ “บ่าวนาวารา”
สร้างเรื่องหลอกลวงนางมัลลิกา ขอความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อมาซื้อทุเรียน โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารออมสิน ชื่อนายอมรเทพ ทับทิมเมือง
ซึ่งนางมัลลิกาหลงเชื่อ โอนเงินไปให้หลายครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 1 แสนบาท เนื่องจากคิดว่าน้องชายกำลังเดือดร้อนจริงๆ
แล้ววันซวยของโจรก็มาถึง เมื่อยังติดต่อไถเงินเหยื่อต่อเนื่อง จนนางมัลลิกาเริ่มผิดสังเกต จึงติดต่อตรงไปหาน้องชาย สอบถามเรื่องที่ยืมเงินไปซื้อขายทุเรียน
คราวนี้เลยโป๊ะแตก น้องชายตัวจริงบอกนางมัลลิกาว่า เฟซบุ๊กผม โดนมิจฉาชีพแฮ็กไปตั้งนานแล้วจ้า ไม่เคยติดต่อขอยืมเงินพี่เลยแม้แต่บาทเดียว
นางมัลลิกาจึงแจ้งความไว้กับ สน.ท่าข้าม แต่นายอมรเทพก็ดำดินหายไป หนีการตามล่าของตำรวจได้นานหลายเดือน
แต่แล้วในที่สุด นายอมรเทพก็จนมุมต่อ ตำรวจ กก.สส.บก.น.8 นำโดย พ.ต.อ.นิภพล สุขนิยม เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2565
ซึ่งเมื่อตรวจสอบพบประวัติฉ้อโกงปรากฏใน “ฉลาดโอน” ถึง 7 คดี จึงทำการสืบสวนขยายผลคดีต่างๆเหล่านั้น
เสร็จแล้ว ส่งตัวให้ สน.ท่าข้าม ดำเนินคดี ข้อหาร่วมกันฉ้อโกง โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือเป็นเท็จ
แม้เบื้องต้น นายอมรเทพจะยอมสารภาพ แต่ไม่วายแสดงความกะล่อนรอบจัดออกมา อ้างว่าบัญชีธนาคารออมสินชื่อตัวเอง ที่ใช้ตุ๋นเหยื่อนั้น จริงๆ แล้วเป็น “บัญชีม้า” ที่ถูกเพื่อนหลอกเอาไปใช้
เป็นลูกไม้ตื้นๆ เพื่อเตรียมทางหนีทีไล่ไว้สู้คดีในชั้นศาล สร้างเรื่องให้ตัวเองเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอีกที