MGR Online - บช.ก.เปิดปฏิบัติการ “ล้างบาปปราบอลัชชี” ปราบทุจริตเงินทอนวัด บุกจับ “เจ้าคุณแจ๊ค” เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน รองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก ฐานร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ทุจริตเงินอุดหนุนวัด 12 แห่งในจังหวัด วงเงิน 123 ล้านบาท
วันนี้ (18 ก.พ.) เมื่อเวลา 06.00 น. พล.ต.ต.จรูญ เกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปปป. บูรณาการกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ บก.ปอท., บก.รฟ., บก. ทล., เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. รวมกว่า 60 นาย เปิดปฏิบัติการ “ล้างบาปปราบอลัชชี ทุจริตเงินทอนวัด” กระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุด ในพื้นที่ จ.นครนายก จ.นนทบุรี และ กรุงเทพมหานคร เพื่อตามจับผู้กระทำผิดทุจริตเงินอุดหนุนวัด ของสํานักงานพระพุทธศาสนา รวมถึงตรวจยึดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด
โดยเป้าหมายสำคัญของการตรวจค้นอยู่ที่ กุฏิเจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน ต.เขาพระ อ.เมือง จ.นครนายก ซึ่งเป็นที่จำวัดของ พระสิทธิวรนายก หรือ เจ้าคุณแจ๊ค เจ้าอาวาสวัด หรืออีกตำแหน่งคือ รองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก ทั้งนี้ เมื่อพบตัว พระสิทธิวรนายก เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายค้นศาลจังหวัดนครนายก เพื่อขอเข้าทำการตรวจค้นหาพยานหลักฐานต่างๆ ภายในกุฏิ ก่อนจะนิมนต์พระสิทธิวรนายก ไปยัง สภ.เมืองนครนายก เพื่อทำการสอบปากคำ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้นิมนต์เจ้าอาวาสวัดอื่นๆ ในพื้นที่ จ.นครนายก ที่เกี่ยวข้องอีก 11 วัด มาทำการสอบปากคำยัง สภ.เมืองนครนายก อีกด้วย
สำหรับปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้รับการร้องเรียนให้ดำเนินการตรวจสอบงบอุดหนุนวัดของสํานักงานพระพุทธศาสนา ช่วงระหว่างปี 2550-2559 ของ จ.นครนายก หลังพบความผิดปกติหลายอย่างจนเชื่อได้ว่ามีการทุจริตเกิดขึ้น จึงลงพื้นที่สืบหาข้อเท็จจริง จนกระทั่งพบว่า นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีทุจริตเงินทอนวัดเคสเก่า ที่อยู่ระหว่างหลบหนี พร้อมพวกเจ้าหน้าที่สํานักพุทธฯ ได้ร่วมกับ พระสิทธิวรนายก และเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ในพื้นที่ ทุจริตเงินอุดหนุนจากสำนักพุทธฯ ที่อนุมัติให้วัดต่างๆ ในพื้นที่ จ.นครนายก 12 วัด ในวงเงินงบประมาณ 123 ล้านบาท
โดยหลังจากเจ้าอาวาสแต่ละวัดได้รับเงินอุดหนุนแล้ว ก็จะทำการถอนเงินสดออกมาทั้งหมดแล้วนําไปให้พระสิทธิวรนายก จากนั้นก็จะแบ่งเงินเพียงบางส่วนทอนให้วัดต่างๆ คืนไป โดยอ้างว่า จะต้องเอาเงินส่วนที่เหลือไปมอบให้สํานักพุทธฯ เพื่อนําไปบริจาคให้กับวัดอื่นๆ ที่ยังขาดแคลนงบประมาณ รวมเงินที่เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียนรวบรวมมาได้ กว่า 110 ล้านบาท ก่อนจะนําเงินไปแบ่งกับ นายนพรัตน์
อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนยังพบอีกว่า ทั้ง อดีต ผอ.สํานักงานพระพุทธศาสนา และ เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน หลังได้เงินมาแล้ว ได้นำเงินบางส่วน ไปซื้อที่ดินทรัพย์สินต่างๆ จํานวนมาก โดยมีหลักฐานยืนยันชัดเจนแล้วว่า ทั้งคู่ได้กว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้านในพื้นที่ จ.นครนายก ที่มีความสนิทกัน จํานวน 3 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 10 ไร่ มูลค่ารวมประมาณ 18.6 ล้านบาท โดยให้บุคคลในครอบครัวเป็นผู้ถือกรรมสิทธิแทนในลักษณะอําพรางปกปิด ซึ่งถือว่าเป็นการกระทําที่ส่อไปในทางทุจริต และถือเป็นความผิดอาญาฐานร่วมกันฟอกเงิน จึงนำไปสู่การเปิดปฏิบัติการดังกล่าวในวันนี้ขึ้นมาเพื่อตามตรวจค้นจับกุมและตรวจยึดทรัพย์สินที่ดินเหล่านี้กลับคืนสู่พระพุทธศาสนา
โดยหลังจากนี้ ทาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจะมีการจัดแถลงข่าวสรุปผลการปฏิบัติการอย่างละเอียดอีกครั้ง ในเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันเดียวกัน ที่ ห้องแถลงข่าว ชั้น 2 อาคารสำนักงานกองปราบปราม (บก.ป.)