คนตาบอดขายลอตเตอรี่ โดนเพื่อนร่วมอาชีพยืมเงินกว่า 3 ล้านบาท ตามทวงแต่กลับชิ่งหนี วอนเห็นใจเหยื่อนำโฉนดที่ดินบ้านพักจำนองไว้ แถมบากหน้าไปยืมคนอื่นมาให้
วันนี้ (15 ก.พ.) เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ สภ.บางบัวทอง ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี คนขายลอตเตอรี่ 4 คน เดินทางเข้าแจ้งความหลังเพื่อนร่วมอาชีพทักมาขอยืมเงินแล้วบอกจะคืนให้ตั้งแต่กลางปี 64 จนกระทั่งข้ามปียังใช้เงินคืนให้ไม่หมด ซึ่งแต่ละคนโดนผู้หญิงคนเดียวกันยืมทั้งเงินสดรวมๆ แล้วกว่า 2 ล้านบาท และโฉนดที่ดินอีกมูลค่าเกือบล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท ล่าสุด นัดคุยกันแต่คู่กรณีในวันศุกร์ที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่อีกฝ่ายกลับเบี้ยวนัดไม่ยอมมา ซ้ำยังติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้อีก
โดยในวันนี้ นายไพฑูรย์ เต็มรัก เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ กันกับผู้เสียหายทั้ง 4 คน ได้เป็นคนพาทั้งหมดมาแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง เนื่องจากผู้เสียหายได้มาขอร้องให้ช่วย ซึ่งตนก็พอจะรู้เรื่องการยืมเงินครั้งนี้พอสมควร และสงสารเพราะเขาก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร
น.ส.สุพัตรา สีสิงห์ อายุ 49 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่เล่าว่า อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 106/290 ม.6 เมื่อประมาณกลางๆปี 64 นาง วิไลพร ทองคำ อายุ 56 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่และพิการทางสายตาเหมือนกัน ได้มาพูดคุยและขอยืมเงิน 200,000 บาท กับตน โดยให้เหตุผลว่าจะนำเงินไปซื้อลอตเตอรี่มาขาย ตนเองก็ไม่มีเงินแต่เห็นเป็นเพื่อนร่วมอาชีพและบ้านอยู่ใกล้ๆ กัน จึงได้ขอยืมเงินจากคนอื่นเอามาให้ นาง วิไลพร หลังจากที่ยืมไปก้อนแรก ก็ได้มีการติดต่อคืนเงินให้บางส่วนแต่ก็คืนไม่ครบ แล้วก็มาขอยืมต่ออีก 250,000 บาท และก็อีก 100,000 บาท แล้วก็คืนเงินให้บ้างแต่ก็ไม่ครบสักรอบ เป็นแบบนี้อยู่หลายรอบจนไม่มีเงินให้ยืมแล้ว ต้องเอาโฉนดที่ดินของตนไปจำนองมาให้ นาง วิไลพรอีก จำนวน 500,000 บาท
จนกระทั้งมาถึงช่วงต้นปี 65 ก็ยังได้รับเงินไม่ครบเลย ตอนนี้ตนเดือดร้อนมากเพราะจะต้องนำเงินไปผ่อนบ้านด้วยอีก ตอนนี้ยังไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหนไปผ่อนบ้านและต้องหาเงินไปคืนให้กับคนที่ตนไปยืมมาให้นาง วิไลพร อีก โดยรวมๆแล้วเงินของตนถูกยืมไป 1,040,000 บาท และโฉนดที่ดินมูลค่าอีก 500,000 บาท ก็อยากให้ นางวิไลพร กลับมาคุยกันมาตกลงกันว่าจะเอายังไง อย่าหนีไปแบบนี้ มีอะไรมาคุยกัน ตนก็ไม่อยากมาแจ้งความแบบนี้ เพราะทำอาชีพเดียวกันและเป็นคนตาบอดเหมือนกันไม่น่าจะมาทำกันแบบนี้เลย ติดปัญหาอะไรเข้ามาคุยกันดีกว่าหนีแบบนี้
นายบำรุง ขุนชาญโหมก อายุ 52 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่เช่นกัน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนก็โดนเหมือนกับ น.ส สุพัตรา เลย ก็ได้มีการพูดคุยกับ น.ส.วิไลพร เมื่อช่วงวันที่ 3 ม.ค. 65 ในลักษณะของการขอยืมเงิน โดยตนได้ทำการโอนเงินไปให้กับ น.ส.วิไลพร หลายครั้งมาก ครั้งละ 100,000-200,000 บาท โดยโอนให้มากสุดคือ 300,000 บาท และได้นำเอาโฉนดที่ดินไปจำนองอีก 200,000 บาท เพื่อนำมาให้ นาง วิไลพร แต่ก็ไม่เคยได้รับเงินคืนครบเลยสักครั้ง จนตอนนี้ตนได้ให้ยิมเงินไปแล้ว 970,000 บาท เคยโทร.ไปหานางวิไลพรแล้ว แต่ก็ไม่รับสาย พอไปหาที่บ้านก็ไม่อยู่บ้าน ตนไม่รู้จะทำยังไงอยากได้เงินคืน เพราะต้องเอาไปใช้จ่ายทั่งค่าผ่อนบ้านและซื้อลอตเตอรี่มาขาย ตอนนี้ไม่มีเงินทุนมาหมุนเพื่อนำไปซื้อลอตเตอรี่แล้ว เดือดร้อนมาก
ด้าน น.ส.จริญญา ทุมมาศ อายุ 48 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่เช่นเดียวกัน เล่าว่า ตนก็โดนเหมือนกับ 2 คนแรก แต่โอนเงินให้ยืมน้อยกว่า โดยของตนให้ นางวิไลพร ยืมเงินไปสองรอบ รอบแรก 200,000 บาท และรอบสองอีก 120,000 บาท และยังไม่ได้รับการติดต่อคืนเงินเช่นกัน
ล่าสุด ทาง น.ส.สุพัตรา และผู้เสียหายทั้งหมดได้มีการนัดคุยกับนางวิไลพร เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 65 เพื่อที่จะเจรจาและตกลงการคืนเงิน แต่ก็ไม่มาตามนัด และยังได้มีการติดต่อทางโทรศัพท์แต่ทางนางวิไลพรไม่ยอมรับโทรศัพท์ซึ่งที่ผ่านมาก็พยายามติดต่อนางวิไลพรอยู่ตลอด แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงไม่รู้ว่าคู่กรณีจะเอายังไง จึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความ เบื้องต้นทั้งหมดได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท บัญญพนต์ แก้วปรีชากร พงส.สภ.บางบัวทอง เพื่อลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน