กระแสเสรีกัญชาทางการแพทย์รวมถึงการแจ้งปลูกกัญชาในครัวเรือนสามารถทำได้ง่ายๆเพียงจดแจ้งเพื่อแสดงความจำนงว่าจะปลูกที่ไหนกี่ต้นตามการพิจารณากฎหมายทำให้การปลูก “กัญชากัญชง”กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ทั้งนี้ส่วนใหญ่กำลังรอความคืบหน้าการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกัญชากัญชงอย่างใจจดจ่อโดยเฉพาะประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5พ.ศ.2565ปลดกัญชาออกจากยาเสพติดซึ่งนายอนุทินชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ลงนามเรียบร้อยแล้วและประกาศนี้จะมีผลบังคับใช้ใน120วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา
สำหรับประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับดังกล่าวออกตามความในประมวลกฎหมายยาเสพติดพ.ศ. 2564ส่งผลให้รายชื่อยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (ยส.5)จะเหลือเพียงพืชฝิ่นเห็ดขี้ควายหรือพืชเห็ดขี้ควายและสารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชงซึ่งเป็นพืชในสกุลCannabisที่มีปริมาณสารทีเอชซี (THC)เกินร้อยละ 0.2โดยน้ำหนักโดยเจตนารมณ์หลักคือการใช้เพื่อการแพทย์เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการใช้กัญชาเพื่อรักษาสุขภาพของตนเองและการต่อยอดให้เป็นพืชเศรษฐกิจ
ระหว่างรอรายละเอียดและหลักเกณฑ์ประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาเกษตรกรประชาชนและผู้ที่สนใจธุรกิจกัญชากัญชงมีการตื่นตัวเกินคาดต่างมีความหวังว่าจะสามารถแจ้งปลูกในบ้านเพื่อนำมาใช้บำบัดรักษาโรครวมทั้งยังหวังว่ากัญชากัญชงจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่โดยเฉพาะในแง่ของความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนนโยบายเสรีกัญชาทางการแพทย์ที่การขอปลูกจะมีขั้นตอนที่ง่ายขึ้น
จากปรากฏการณ์การดังกล่าวทำให้ประชาชนให้ความสนใจปลูก “กัญชากัญชง”เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในระดับบุคคลและวิสาหกิจชุมชนจำนวนมากทั่วประเทศ
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้วิสาหกิจชุมชน Thai Herb Centersซึ่งจัดอบรมให้ความรู้เกษตรกรและผู้สนใจ “หลักสูตรการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการขออนุญาตปลูกกัญชากัญชงเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์อาหารและเครื่องดื่ม”มีผู้คนให้ความสนใจสอบถามและสมัครเข้าร่วมอบรมอย่างคึกคัก
นายธวัชจรุงพิรวงศ์ประธานวิสาหกิจชุมชน Thai Herb Centersซึ่งเป็นวิทยากรในการอบรมกล่าวว่า “การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการขออนุญาตปลูกกัญชากัญชงเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์อาหารและเครื่องดื่ม”น่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากจากปกติมีหัวข้อการอบรมที่สำคัญได้แก่การจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนประโยชน์และโทษของสารเสพติดให้โทษประเภท5 (กัญชา)การขออนุญาตปลูกและสถานที่ปลูกให้ถูกต้องตามกฎหมายการเลือกสายพันธุ์กัญชาและกัญชงการเลือกโรงเรือนในการปลูกการปลูกกัญชาให้ได้ผลผลิตสูงและมีคุณภาพการปลูกดูแลรักษาการเก็บเกี่ยวและแปรรูปกัญชาเป็นต้นก็มีการเพิ่มเติมความรู้ความเข้าใจในการขออนุญาตปลูกหรือจดแจ้งสำหรับประชาชนทั่วไปซึ่งมีขั้นตอนที่ง่ายขึ้นรวมทั้งการอัพเดทความเคลื่อนไหวในการขออนุญาตปลูกทั้งบุคคลและวิสาหกิจชุมชน
“จากความรู้และประสบการณ์ที่ผมจัดอบรมมาอย่างต่อเนื่องผมเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายในครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญของการปลูกการแปรรูปและการจำหน่ายกัญชากัญชงในประเทศไทยในมิติต่างๆมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะการเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถแจ้งปลูกกัญชาในครัวเรือนได้ง่ายขึ้นนั้นจะเปลี่ยนโฉมของกัญชาซึ่งเดิมเป็นยาเสพติดให้มีการนำมาใช้บำบัดรักษาโรคตามภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนไทยแต่ต้องไม่เอามาใช้เป็นยาเสพติดซึ่งหลักเกณฑ์ต่างๆคงต้องรอความคืบหน้าจากกระทรวงสาธารณสุขโดยเบื้องต้นจะมีการผลักดันให้สามารถจดแจ้งผ่านแอพพลิเคชั่นได้”
นอกจากนี้ในแง่การปลูกเชิงพาณิชย์ระหว่างช่องว่าง 120วันนี้ยังสามารถรวมตัวกันในรูปแบบวิสาหกิจชุมชน 7คนแล้วขออนุญาตปลูกได้ซึ่งต้องได้รับอนุญาตตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ต่างๆตามที่กฎหมายกำหนดซึ่งจำเป็นต้องรู้ขั้นตอนเช่นเดียวกันดังนั้นการอบรมจึงต้องให้ความรู้ความเข้าใจซึ่งจะเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการทำให้ประชาชนและเกษตรกรที่สนใจเดินถูกทางไม่เสียเวลาและสามารถขออนุญาตปลูกกัญชากัญชงได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกกฎหมายในที่สุด ประธานวิสาหกิจชุมชน Thai Herb Centersกล่าวทิ้งท้ายว่าไม่ว่ากฎหมายจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรแต่หลักสำคัญของการปลูกกัญชากัญชงยังจำเป็นที่ต้องอาศัยหลักวิชาการที่ถูกต้องเพื่อทำให้การปลูกมีปัญหาน้อยที่สุดได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและได้ผลตอบแทนสูงสุดนอกจากนี้การอบรมเรายังจะนำเสนอให้ได้เห็นมุมมองการต่อยอดการผลิตในเชิงธุรกิจสู่อาหารเครื่องสำอางและเครื่องดื่มซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่มาแรงมากในปี 2565นี้อีกด้วย
“หลักสูตรการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการขออนุญาตปลูกกัญชากัญชงเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์อาหารและเครื่องดื่ม”เปิดให้อบรมทุกวันอาทิตย์เวลา 9.00 - 15.00น.ณที่ทำการกลุ่มวิสาหกิจชุมชน Thai Herb Centersหมู่ 2ตำบลไทรม้าอำเภอเมืองนนทบุรีผู้สนใจสามารถสำรองที่นั่งหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Thai Herb Centers (facebook.com/thccenters)โทร. 083-979-9389 Line ID : @Thaiherbcenters