รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 7 ก.พ.65 นำเสนอรายงานพิเศษ เหตุเกิดที่อุเทนถวาย ค่านิยมคนเถื่อนหลงยุค “อุเทนถวายทำลายชาติ ยิ่งกว่าสร้างชาติ”
เป็นคำด่าอย่างแรงจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งสุดทนต่อพฤติกรรมเลวร้ายเที่ยวล่าสุดของ “เด็กอุเทน” สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย
เข้าแถวสาดกระสุนขึ้นฟ้าคนละหลายนัด ในสไตล์ยิงสลุต ในงานฉลอง 88 ปี อุเทนถวาย เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา
คลิปนั้น ใครเห็นก็มีแต่ด่าประณามกันทั่วบ้านทั่วเมือง จนมีคำถามว่า ศิษย์ปัจจุบัน ศิษย์เก่า อาจารย์ ตลอดจนผู้บริหาร ของอุเทนถวาย น่าจะไม่รู้ตัวเอาเสียเลย
ว่าสถาบันของพวกเขา มีค่านิยมหลงยุค ย่ำวนๆ กับความเถื่อน ที่สังคมก่นด่า
คนเหล่านี้ทำไปได้อย่างไร ยิงปืนขึ้นฟ้า ในพื้นที่ใจกลางกรุง ผู้คนหนาแน่น แวดล้อมด้วยโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศูนย์การค้ามาบุญครอง ศูนย์การค้าสยามพารากอน เซ็นเตอร์พอยต์ โรงพยาบาลตำรวจ
รวมถึงวังสระปทุม ที่ประทับของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เมื่อตำรวจระดมกำลังเข้าตรวจค้นภายในอุเทนถวาย ก็เจอทั้งกระสุนปืน ปลอกกระสุน ปืน และมีดหลายสิบเล่ม ซุกซ่อนไว้ราวกับเป็นรังโจร มากกว่าจะเป็นสถานศึกษา
น่าเสียดายที่ค้นไม่พบปืนที่ยิงขึ้นฟ้า ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า มีร่วม 20 กระบอกเลยทีเดียว
โดยคนที่เกี่ยวข้อง มีประมาณ 50 คน ทั้งศิษย์ปัจจุบันและศิษย์เก่า ตอนนี้หลายคนก็ทยอยเข้ามอบตัวรับทราบข้อหาแล้ว
ปัญหานักเรียนนักเลง ซึ่งอุเทนถวายยืนหนึ่งมายาวนานหลายสิบปี สมอ้างว่าเป็นพ่อทุกสถาบันการศึกษา กลายเป็นโจทย์ยากที่ใครก็แก้ไม่ได้สะเด็ดน้ำ
ไม่ว่าจะใช้ไม้แข็ง คือจัดการด้วยกฎหมาย หรือใช้ไม้นวม คือจัดพิธีจับมือกับสถาบันคู่อริ ปัญหาก็ไม่เคยยุติสิ้นสุดเด็ดขาด แต่จะมีลักษณะผลุบๆ โผล่ๆ หายไปสักพัก ก็กลับมาปะทุอีก
ที่ผ่านมา สูญเสียกันไปเท่าไร ทั้งฝ่ายอุเทนถวายเอง และฝ่ายสถาบันคู่อริ ทั้งเสียชีวิต เสียอนาคต ต้องติดคุกติดตะราง
บางคราวความสูญเสีย ยังลามไปถึงประชาชนคนเดินถนน คนโดยสารรถเมล์ ต้องเจอลูกหลงบาดเจ็บล้มตาย โดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่
แต่ชาวอุเทนถวายไม่เคยเกิดสำนึกใดๆ ยังคงยึดมั่นในคติความเชื่อและประเพณีเพี้ยนๆ เป็นที่อิดหนาระอาใจของคนที่มองมา
ทั้งที่ยุคสมัยนี้ อาชีวะนอกจากมีภารกิจสร้างชาติแล้ว ยังควรเอาเวลาและสมอง ไปสร้างสรรค์อะไรให้โลกสมัยใหม่ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า จักรยานยนต์ไฟฟ้า
นี่อะไร ยังมาหมกมุ่นเล่นปืนเล่นมีด อันไร้สาระ สร้างความเสื่อมเสียไม่รู้เบื่อ
มีการวิเคราะห์ว่าตัวปัญหา ที่ทำให้อุเทนถวายติดหล่มตัวเอง ก็คือบรรดาศิษย์เก่า และอาจารย์ที่เป็นศิษย์เก่า ต่างช่วยกันอนุรักษ์และส่งต่อดีเอ็นเอแย่ๆ
ทั้งที่อุเทนถวาย ก็มีศิษย์เก่าดีๆ ดังๆ หลายคน ไม่ว่าจะ “แอ๊ด คาราบาว” “เล็ก คาราบาว” “มอส ปฏิภาณ” “สมบัติ เมทะนี” เป็นต้น
โชคดีของประชาชนคนเดินถนน และโชคดีของอุเทนถวายเองด้วย ที่กระสุนที่ปลิวว่อนขึ้นฟ้าวันนั้น ไม่ไปตกสร้างความสูญเสียให้ใคร
แต่พฤติกรรมแค่นี้ก็น่ารังเกียจเกินทน ในสายตาของอาจารย์จุฬาฯคนดังอย่าง “เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์” ที่เรียกร้องให้ปิดสถาบันชั่วคราวไปเลย
แต่ก็เป็นอีกครั้งที่อุเทนถวาย ได้รับความปรานี รัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการปิดสถาบัน เพราะกลัวคนดีๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง ต้องพลอยซวยไปด้วย
แต่คำจากปากนายกรัฐมนตรี ที่เอ่ยขอร้องศิษย์เก่าและศิษย์ใหม่อุเทนถวาย ให้พอได้แล้วเรื่องแบบนี้ โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ก็น่าจะตรงกับความรู้สึกของสังคมทุกประการ