รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP และสถานีโทรทัศน์ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 3 ก.พ.65 นำเสนอรายงานพิเศษ ศาลเปิดศึกโจรดิจิตอล รับฟ้องออนไลน์
ต้องปรบมือให้กับศาลยุติธรรม ที่เปิดดำเนินการ “แผนกคดีซื้อขายออนไลน์ศาลแพ่ง” เริ่มตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค. 2565 เป็นต้นไป
แสดงถึงวิสัยทัศน์ของศาล ปรับตัวมาใช้เทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหาทุกข์ร้อนให้ประชาชน
เพราะที่ผ่านมา การฉ้อโกงด้วยเล่ห์เหลี่ยมต่างๆ นานา ของร้านค้าออนไลน์ ได้สร้างปัญหาให้ผู้บริโภค ชนิดปราบไม่ไหว
ผู้บริโภคจำนวนมากเอง ก็เหน็ดเหนื่อยเกินไปที่จะดำเนินการตามล่าหรือเอาผิด จากขั้นตอนที่รุงรังยุ่งยากต่างๆ
โดยเฉพาะ เมื่อมูลค่าความเสียหาย เป็นสินค้าแค่ไม่กี่ร้อยบาท วุ่นวายไปก็อาจได้ไม่คุ้มเสีย ทั้งเงินทองและเวลา
เลยมักใช้วิธีปลงและสาปส่ง คิดเสียว่าให้ทาน ฟาดหัวหมาไป เหล่าคนโกงจึงยิ่งได้ใจ ใช้เป็นช่องทางทำมาหากินกันเป็นล่ำเป็นสัน
ยอดเสียหายแต่ละรายไม่กี่ร้อยบาทก็จริง แต่พอมีเหยื่อมากๆ เข้า ก็กลายเป็นเงินเข้ากระเป๋าโจร รวมหลายล้านบาท
หนึ่งในกลวิธีของร้านออนไลน์เลวๆ ก็คือ ขายสินค้าไม่ตรงปก ทั้งการโพสต์ภาพที่ดูดีเกินจริง ทั้งคำบรรยายสรรพคุณสินค้าที่เว่อวัง
แต่ของที่ส่งมา กลับเป็นของไร้คุณภาพ แทบใช้การไม่ได้จริง และที่โหดจัดกว่านั้น กลายเป็นสินค้าจำลองไซส์จิ๋ว เป็นข่าวให้คนด่ากันขรมเป็นประจำ
การที่ศาลเปิดให้ประชาชนฟ้องร้องคดีออนไลน์ ผ่านระบบออนไลน์ จึงนับว่ามาถูกทาง คล้ายกับสำนวนไทย “หนามยอก เอาหนามบ่ง”
เพราะการซื้อขายออนไลน์ ความเสียหายเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและฉับไว ศาลจะใช้แต่วิธีการดั้งเดิม ในการอำนวยความยุติธรรม ก็จะเชื่องช้าไม่ทันโจร
ทีมข่าว “ถอนหมุดข่าว” ได้ทดสอบระบบ e-Filing ที่ศาลแพ่งเปิดรับฟ้องร้องออนไลน์ดังกล่าว ก็พบว่าสามารถทำได้อย่างสะดวกสบายบนสมาร์ทโฟน
เรียกว่า ใครก็ตามที่ผ่านมาการลงทะเบียน “เป๋าตัง” หรือ “หมอพร้อม” มาแล้ว ก็จะคุ้นเคยเป็นอย่างดี กับขั้นตอนการกรอกข้อมูลต่างๆ ที่ออกแบบมาอย่างลงตัว
แต่สิ่งที่ต้องติดตามกันต่อไปในอนาคต ศาลแพ่งออนไลน์จะมีบุคลากรพอจะรับมือกับคดีความที่เกิดขึ้นหรือไม่ เพราะคาดว่ายิ่งมีความสะดวกในการฟ้องร้อง ผู้เสียหายก็คงจะแห่มาใช้บริการกันถล่มทลาย
และผลจากการใช้มาตรการนี้ ก็น่าจะลดจำนวนเหล่ามิจฉาชีพออนไลน์ลงได้ ความอุ่นใจเชื่อมั่นของผู้บริโภค จะยิ่งสร้างความเติบโตให้กับ อี-คอมเมิร์ซไทย ซึ่งจากเดิมก็โตเอาโตเอาจนฉุดไม่อยู่ อยู่แล้ว
โดยเฉพาะเมื่อมีการระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีมานี้ งานสำรวจวิจัยพบว่า การล็อกดาวน์ กลับส่งผลให้การช็อปปิ้งออนไลน์พุ่งทะยาน สวนทางกับรายได้ที่ลดลง
โดยปี 2020 อี-คอมเมิร์ซไทย เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 35% ส่วนปี 2021 เติบโตราว 15-20% และคาดว่าจะเติบโตในระดับดังกล่างต่อเนื่องไปอีก 3 ปี
โดยคนไทยถึง 56% ซื้อขายสินค้าออนไลน์ในช่วงการระบาดของโควิด
รายงาน Global Digital Stat 2021 ของ We Are Social ระบุว่า ในปี 2021 คนไทยช็อปออนไลน์สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก สูงถึง 83.6% แม้แต่คนสหรัฐฯ ก็แพ้คนไทยในเรื่องนี้
โดยอันดับ 1 เป็นคนอินโดนีเซีย อันดับ 2 เป็นคนสหราชอาณาจักร
และในบรรดาการช็อปออนไลน์ คนไทยใช้สมาร์ทโฟนซื้อของเป็นอันดับ 2 ของโลกด้วยสัดส่วนที่มากถึง 74.2%
จะสรุปว่า คนไทย “เสพติดช็อปปิ้งออนไลน์” ระดับมหาอำนาจของโลก ก็คงไม่เกินเลย