“ข่าวลึกปมลับ”ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ตอน ผวากับดัก “เศรษฐกิจไทย” “พ่อลูกช่างเหลา” ซบ“ภูมิใจไทย”
ก๊วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยกโขยงย้ายไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทยเรียบร้อย แต่ยังมีเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลังให้ต้องตามกันต่อ เพราะ 21 คน 21 ส.ส.ที่ถูกออกพรรคมาพร้อมกัน มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทยเพียง 18 คน ไม่ได้มาตามนัดทั้งหมด ขาดไปสามคน
ที่ขาดไป คนแรกคือ เสี่ยเบี้ยว-สมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา ที่มีหนังสือขอให้ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค มีมติทบทวนการขับออกตั้งแต่พรรคมีมติออกมาวันแรก
นอกจากนี้ ที่ไม่มาอีกสองคน เป็นคนที่น่าสนใจ ที่ไม่มีใครนึกว่าจะแตกทัพไม่มาตามนัด คือ สองพ่อลูกตระกูลช่างเหลา เสี่ยเอก-เอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ เพื่อนซี้ผู้กองนัส ในยุทธจักรสีเทา และ เสี่ยต้อม-วัฒนา ช่างเหลา ส.ส.ขอนแก่น ลูกชาย
ก่อนหน้านี้ มีกลิ่นโชยออกมาว่า สองพ่อลูกช่างเหลาจะไม่เก็บกระเป๋าตามไปอยู่พรรคเศรษฐกิจไทย แต่จะเลยป้ายไปจอดที่อีสานใต้กับพรรคภูมิใจไทย หลังลูกชายคนเล็ก พิทักษ์ชน ช่างเหลา โผล่ไปเปิดตัวกับเป็นสมาชิกป้ายแดงกับพรรคภูมิใจไทยในการประชุมใหญ่สามัญพรรคที่ จ.นครราชสีมา
และมีคนเห็น เอกราช และลูกชาย โผล่ไปร่วมรับประทานอาหารที่ฐานบัญชาการใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย ซอยรางน้ำบ่อยครั้ง ตลอดจนการพบปะกับบิ๊กบราเธอร์ของพรรคอีสานใต้ถี่ยิบ
เสี่ยเอกราช ออกอาการโลเล ไม่ตามก๊วนไปทันที มีเหตุผลที่เข้าใจได้ คงเป็นเพราะรู้สึกไม่มั่นใจในความปลอดภัยตัวเอง ที่มีชนักปักหลัง
โดยเฉพาะคดีร่วมกันยักยอกและปลอมแปลงเอกสารบัญชีและงบการเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นอันเป็นเท็จ ที่ตำรวจเคยส่งหมายจับไปยังสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอตัวมาดำเนินคดีมาแล้ว
คดีนี้มีความสำคัญต่อชีวิตและการเมืองของตระกูลช่างเหลา ก้าวพลาดไปก้าวเดียว อาจจะถึงขั้นล่มสลายไปทั้งตระกูล จึงเป็นเรื่องที่เอกราช จะผลีผลามตามพวกเอามันสะใจไม่ได้
การร่วมหัวจมท้ายไปกับธรรมนัส ก็ต้องย่อมมีได้มีเสีย ซึ่งเป็นเรื่องระดับ Do or die เลยทีเดียว สถานการณ์ขณะนี้เป็นตายได้ทุกย่างก้าว และต่อให้พรรคเศรษฐกิจไทยจะยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ก็เป็นพรรคหอกข้างแคร่ในสายตา บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อยู่ดี
หรือต่อให้ บิ๊กป้อม ออกมาการันตีผ่านสื่อว่า พรรคนี้เป็นพรรคของตัวเองเช่นเดียวกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีความปลอดภัย ตราบใดที่ ผู้กองนัส ยังถูก บิ๊กตู่ หมายหัว
ว่ากันตามความจริง การพ้นชายคาพรรคพลังประชารัฐเข้าเขตอันตรายกว่าเดิมด้วยซ้ำ ยิ่งคิดหวังว่าจะใช้วิธีนี้กดดัน หรือต่อรองกับผู้มีอำนาจ เพราะเป็นอิสระกว่าบ้านเดิม นั้นไม่ได้ง่าย
บิ๊กตู่ ไม่ได้หมูอย่างที่คิด และไม่ได้อยู่ในสถานะตั้งรับอย่างเดียว กลับกันตั้งแต่ช่วงต้นปีมาเป็นฝ่ายจู่โจมเสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะการแต่งตั้ง เสี่ยแฮงค์-อนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขึ้นมาเป็นประธานแก้ไขล็อตเตอรี่แพง แบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
คนในวงการรู้กันว่า ปฏิบัติการนี้ บิ๊กตู่ ต้องการทำลายแหล่งหากินของใครบางคน ที่หากหาผลประโยชน์จากล็อตเตอรี่ไม่ได้ เท่ากับขาดกระแสรายได้เดือนละสองงวดไปเป็นเงินมหาศาล
ขณะเดียวกันมีคนออกอาการผวาด้วยซ้ำว่า พรรคเศรษฐกิจไทยจะกลายมาเป็นกับดักเพื่อฆ่า ผู้กองนัส ทางการเมือง ในเมื่อแยกออกจากพรรคพลังประชารัฐ ตั้งตนเป็นหอกข้างแคร่รัฐบาล ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้อีกต่อไป
เลยมีคนเตือนว่าระวังเคล็ดวิชายุบพรรคจะตามมาหลอกหลอน
ในเมื่อคุมยาก ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บเอาไว้ให้รกหูรกตา ตัดสิทธิทางการเมืองออกไปให้พ้นวงโคจร ตามแนวทางถนัดที่ใช้กำจัดศัตรู
ในจังหวะที่ เอกราช ช่างเหลา ต้องคิดให้หนัก เพราะคดีที่ตัวเองเผชิญหนักหนาสาหัส อัตราโทษสูง กลัวจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. กลัวทั้งโดนลากเข้าซังเต
การขยับไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย อาจปลอดภัยกว่า ในฐานะที่ยังยืนอยู่ฝั่ง บิ๊กตู่