MGR Online -“บิ๊กราญ” นำทัพนครบาล แถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรม ช่วงเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่-จตุจักร คดีจับตามหมายจับ คดียาเสพติด คดี พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และคดีอาวุธปืน รวม 2,195 คดี สั่งเฝ้าระวังต่อเนื่องช่วงตรุษจีน วาเลนไทน์ มาฆบูชา 191 โชว์ผลงาน 2 คดีสำคัญ จับปืน และจับแก๊งมังกร หลอกลงทุนแอปฯชอปปิ้งออนไลน์ เหยื่อนับพันราย
วันนี้ (31 ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ.และ พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.สายตรวจ บก.สปพ.แถลงผลการปฏิบัติระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ บช.น.ช่วงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร ระหว่างวันที่ 21-30 ม.ค.ดังนี้
1. จับกุมบุคคลตามหมายจับ 340 คดี ผู้ต้องหา 328 ราย
2. ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด แบ่งเป็น นำเข้า 4 คดี ผู้ต้องหา 4 ราย, จำหน่าย 14 คดี ผู้ต้องหา 16 ราย, ครอบครองเพื่อจำหน่าย 25 คดี ผู้ต้องหา 25 ราย, ครอบครอง 112 คดี ผู้ต้องหา 112 ราย, เสพ 138 คดี ผู้ต้องหา 127 คน รวมทั้งสิ้น 293 คดี ผู้ต้องหา 284 ราย
3. ความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 แบ่งเป็น นำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร 2 คดี ผู้ต้องหา 2 ราย, หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 1,524 คดี ผู้ต้องหา 1,542 คน รวมทั้งสิ้น 1,526 คดี ผู้ต้องหา 1,544 ราย
4. ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน แบ่งเป็น อาวุธปืนสงคราม 1 คดี ผู้ต้องหา 1 ราย, อาวุธปืนธรรมดา (ไม่มีทะเบียน) 20 คดี ผู้ต้องหา 22 ราย, อาวุธปืนธรรมดา (มีทะเบียน) 9 คดี ผู้ต้องหา 9 คน, วัตถุระเบิด 1 คดี ผู้ต้องหา 1 ราย, เครื่องกระสุนปืน 5 คดี ผู้ต้องหา 4 ราย รวมทั้งสิ้น 36 คดี ผู้ต้องหา 37 ราย ยอดสรุป 2,195 คดี ผู้ต้องหา 2,193 ราย
พ.ต.อ.เด่นหล้า กล่าวว่า คดีที่น่าสนใจ ตำรวจสายตรวจ 191 ตรวจยึดอาวุธปืน 9 กระบอก กระสุนปืน 387 นัด และอุปกรณ์การผลิตอีก 21 รายการ ได้ที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี จากการสืบสวนขยายผลจับกุมคดีอาวุธปืน และแฝงตัวในกลุ่มซื้อขายปืนออนไลน์
พล.ต.ต.สมบูรณ์ กล่าวอีกว่า คดีที่น่าสนใจ ตำรวจสายตรวจ 191 จับกุมผู้ต้องหาชาวจีน 2 ราย คดีหลอกลวงร่วมลงทุนแอปพลิเคชันชอปปิ้งออนไลน์ พร้อมของกลาง สมุดบัญชี 57 เล่ม ได้ที่คอนโดฯย่านเกษตร-นวมินทร์ ทำหน้าที่รับโอนเงินจากเหยื่อที่ถูกหลอก มีผู้เสียหาย ประมาณ 1,000 กว่าราย พบมีเงินหมุนเวียน ประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท โดยกลุ่มผู้ต้องหามี 3 ส่วน ได้แก่ 1. กลุ่มหลอกโอนเงิน 2. กลุ่มทำธุรกรรมเกี่ยวกับบัญชีของกลุ่ม 1 และ 3. กลุ่มโอนเงินไปสู่ระบบต่างๆ เช่น เงินดิจิทัล หรือซื้อสินค้าต่อไป
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า เป็นการป้องกันปราบปรามอย่างต่อเนื่อง บช.น.มีการเฝ้าระวังในช่วงเทศกาลตรุษจีน วาเลนไทน์ ตามแหล่งมั่วสุมต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กแว้น รวมถึงเข้มงวดกวดขันจำหน่ายสุราวันมาฆบูชา ตนเน้นย้ำเพื่อให้ความมั่นใจกับประชาชน ว่า จะมุ่งเน้นการป้องกันอาชญากรรม เมื่อเกิดเหตุแล้วจะเร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย มาดำเนินคดีโดยเร็วทุกคดี ดำเนินการกวาดล้างอาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมฯมีความปลอดภัยมากที่สุด