xs
xsm
sm
md
lg

ภิกษุณีไทย “นิรามิสา” ศิษย์เอก “ติชนัทฮันห์”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 26 ม.ค.65 นำเสนอรายงานพิเศษ ภิกษุณีไทย “นิรามิสา” ศิษย์เอก “ติชนัทฮันห์”



หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ พระชาวเวียดนาม ละสังขารไปเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลา 00.00 น. ที่เมืองเว้ สิริรวมอายุ 95 ปี ท่ามกลางความโศกาอาดูรของศิษยานุศิษย์ทั่วโลก

ชื่อเสียงของหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ถือว่ายิ่งใหญ่มาก เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณและปรมาจารย์ลัทธิเซนในระดับโลก เป็นรองก็แค่องค์ดาไลลามะ แห่งทิเบต

ท่านสร้างสำนักสอนเซน ที่เรียกว่า หมู่บ้านพลัม ที่ประเทศฝรั่งเศส จากนั้นก็ขยายสาขาไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย ที่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

เขียนหนังสือธรรมะ ตีพิมพ์ออกมานับร้อยเล่ม ได้รับการแปลไปในหลายภาษา

ในยุคสงครามเวียดนาม พระติช นัท ฮันห์ ก็แสดงบทบาทต่อต้านปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐอเมริกา ในดินแดนบ้านเกิดของท่าน จนเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพมาแล้ว แต่ก็ต้องแลกกับการถูกเนรเทศจากบ้านเกิดเมืองนอน

เพิ่งจะได้รับการผ่อนปรนให้กลับบ้านได้เมื่อไม่นานมานี้ จนมาละสังขารที่วัดตื่อเฮี้ยว เมืองเว้

มีคนไทยจำนวนมาก ยึดวิถีทางของหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ในการดำเนินชีวิต เพราะเป็นธรรมะที่รับใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการมีสติ

แต่ไม่มีคนไทยคนไหนจะได้รับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ เท่าหญิงไทยที่ชื่อ ภิกษุณีนิรามิสา อีกแล้ว

เส้นทางชีวิตของ "สมพร พันธจารุนิธิ" ที่อุทิศตัวเองเป็น “ภิกษุณีนิรามิสา” นับว่าแปลกอย่างที่ใครๆ ก็คาดไม่ถึง ตามคำบอกเล่าของท่านเองในหลายโอกาส

ใครจะเชื่อ สาวไทยเชื้อสายจีน ในครอบครัวนักธุรกิจที่มีฐานะดี การศึกษาดี กลับไม่มีความสุขแท้จริงต่อชีวิตดีๆ ที่ตัวเองได้รับ

เริ่มตั้งแต่เป็นวัยรุ่นเรียน มศ.3 เมื่อได้อ่านหนังสือที่พี่สาวนำมาให้ เขียนโดย “ติช นัท ฮันห์” ก็ทำเอาท่านประทับใจอย่างที่สุด แม้จะไม่รู้ว่านามปากกาแปลกๆ นั้น เป็นใคร

ขณะที่เพื่อนๆ ในชั้นเรียน อินจัดกับนิยายประโลมโลกย์ เช่น คู่กรรม แต่ท่านในตอนวัยรุ่นกลับไม่รู้สึกอะไรขนาดนั้น มุ่งไปอ่านหนังสือธรรมะ ค้นหาจิตวิญญาณเป็นหลัก

ท่านเรียนจบโรงเรียนของเหล่าไฮโซอย่าง “มาแตร์เดอี” ก็เรียนคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยลัยมหิดล แล้วต่อปริญญาโทด้านการศึกษาที่สหรัฐอเมริกา

จบมาทำงานเป็นเอ็นจีโอระดับอินเตอร์ ได้เดินทางไปช่วยเหลือคนด้อยโอกาส ยังที่ต่างๆ ของโลก

จนเดินทางไปหมู่บ้านพลัม ที่ประเทศเยอรมนี ได้พบตัวเป็นๆ ของเจ้าของหนังสือที่เคยสร้างความประทับใจวัยเด็กจึงตัดสินใจบวชเป็นภิกษุณีไทยคนแรกของนิกายนี้ แบบไม่ลังเล เมื่อตอนอายุ 36 ปี

ปฏิบัติธรรมที่หมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศส อยู่ 8 ปี ก็ได้รับรางวัล “สตรีดีเด่นในพระพุทธศาสนา” จากองค์การสหประชาชาติ เนื่องในวันสตรีสากล

จากวันแรก ภิกษุณีนิรามิสา อยู่รับใช้หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ มาตลอด จนหลวงปู่อาพาธด้วยโรคเส้นเลือดสมองจนเป็นอัมพาตเมื่อ 2 ปีก่อน และยังดูแลเรื่อยมา จนวาระสุดท้ายของชีวิตของหลวงปู่ ที่เมืองเว้

ภิกษุณีนิรามิสา เคยเล่าความหลังว่า ช่วงที่ฝักใฝ่ธรรมะมากๆ ขนาดไปถึงสวนโมกข์ ก็ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองจะอยากบวช เพราะสังคมไทยตีตราไว้มานาน ผู้หญิงที่บวช ล้วนแต่พวกอกหัก มีปัญหาชีวิต

แต่พอมาเจอสำนักเซน ที่หมู่บ้านพลัม ที่นี่ใช่เลย สามารถเป็นตัวเองอย่างแท้จริง จึงตัดสินใจละทิ้งทางโลก ไม่ว่าทางบ้านจะคัดค้านเพียงใด

“ชีวิตนักบวช เหมือนเราตัดสินใจเดินเข้าสู่สงคราม แต่เป็นสงครามแห่งสันติภาพ ปล่อยความติดยึดเรื่องการงาน เงินทอง ฐานะที่เรามี เราสัมผัสกับความสุขที่แท้จริง”

หลวงปู่ติช นัท ฮันห์ จากไปแล้ว จากนี้ก็เป็นภาระของภิกษุณีนิรามิสา และเหล่าศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย จะสานต่อธรรมะในแนว Engaged Buddhism ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

นั่นคือ พุทธศาสนาต้องเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน และพุทธธรรม เป็นสิ่งที่สามารถประยุกต์ใช้ให้เข้ากับวิถีชีวิตยุคปัจจุบันได้


กำลังโหลดความคิดเห็น