MGR Online - จตช.ยันต้นสังกัดมีคำสั่งให้ ร.ต.อ.สังกัด สภ.วังวิเศษ จ.ตรัง ผู้ต้องหาคดีข่มขืน 2 เด็กหญิงพี่น้องนานนับปี ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว กำชับฟันวินัย-อาญา เด็ดขาด ยันไม่ป้องคนผิด
จากกรณี ร.ต.อ.สังกัด จ.ตรัง ข่มขืนเด็กหญิงอายุ 12 ปี และ 16 ปี นานนับปี จนเด็กทนไม่ไหว บอกยาย และทางยายได้ร้องขอความเป็นธรรมมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อช่วยเหลือหลาน และดำเนินคดีผู้กระทำผิดซึ่งเป็นตำรวจยศ ร.ต.อ.คนดังกล่าว
วันนี้ (22 ม.ค.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เปิดเผยว่า ตนได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ให้ตรวจสอบติดตามเรื่องดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ ทาง พล.ต.ต.สันทัด วินสน ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้มีคำสั่งให้ ร.ต.อ.วิศาล ขวัญนิมิตร รอง สว.สืบสวน สภ.วังวิเศษ จ.ตรัง ผู้ถูกกล่าวหา ออกจากราชการไว้ก่อน ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. 2565 แล้ว เนื่องจากถูกดำเนินคดีอาญา ฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม พาบุคคลอายุเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นไม่สามารถขัดขืนได้” และความผิดฐาน “กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งไม่ใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” หลังมีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ตั้งแต่วันที่ 18 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา นอกจากนั้น ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ร.ต.อ.วิศาล คู่ขนานการดำเนินคดีอาญาไปพร้อมกันด้วย
เบื้องต้น มีพฤติการณ์ว่า แฟนของ ร.ต.อ.วิศาล ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเด็กทั้งสองมาอาศัยที่บ้านพักของผู้ถูกกล่าวหา และถูกผู้ถูกกล่าวหาข่มขืนตั้งแต่ปลายปี 2563 เรื่อยมา จนยายของเด็กทราบเรื่อง จึงมีการร้องขอความเป็นธรรมและแจ้งความร้องทุกข์ตามที่เป็นข่าว
พล.ต.อ.วิสนุ กล่าวว่า จะติดตามเร่งรัดการสอบสวนทางวินัย และ การดำเนินคดีอาญา ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และขอให้สังคมมั่นใจว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายดำเนินการกับตำรวจที่กระทำความผิดทั้งทางวินัยและอาญาด้วยความเด็ดขาด รวดเร็ว ไม่มีประวิงเวลา หรือปกป้องช่วยเหลือกัน