ศาลฎีกาสั่ง “วัฒนา สิทธิวัง” ส.ส.ลำปาง ก๊วนธรรมนัส หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.หลังรับคำร้อง กกต.ปมจ่ายเงินจูงใจชาวบ้านลงคะแนนเลือกตั้งซ่อมเมื่อ 20 มิ.ย. 63 ไม่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม
วันนี้ (21 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเว็บไซต์ศาลฎีกา ได้ประกาศแจ้งวันนัดพิจารณาด้วยคดีเลือกตั้งหมายเลขดำที่ ลต.สส 1/2565 ระหว่างคณะกรรมการการเลือกตั้งยื่นร้อง นายวัฒนา สิทธิวัง ส.ส. ลำปาง 1 ใน 21 ส.ส.ที่ถูกมติพรรคพลังประชารัฐขับออกพร้อม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้คัดค้าน
เรื่องพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ศาลสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่
โดยศาลรับคำร้องไว้พิจารณาแล้วศาลนัดตรวจพยานหลักฐานวันที่ 15 ก.พ. 2565 เวลา 09.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 5 ศาลฎีกา ประกาศวันที่ 20 ม.ค. 2565
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผลทางกฎหมายหากศาลฎีกามีคำสั่งรับคำร้อง และไม่มีคำสั่งเป็นอย่างอื่นส่งผลให้นายวัฒนาต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยศาลจะส่งคำสั่งไปยังรัฐสภาวันที่ 24 ม.ค.นี้
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.กรณีมีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 ใหม่แทน นายวัฒนา สิทธิวัง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 133 และให้ดำเนินคดีอาญากับ นางเกี๋ยงมา ปุพพโก ตามมาตรา 73(1) ประกอบมาตรา 158 ของกฎหมายเดียวกัน จากกรณี กกต.สอบสวนแล้วเห็นว่า วันที่ 19 มิถุนายน 2563 ที่บ้านของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ต.ล้อมแรด อ.เถิน จ.ลำปาง นางเกี๋ยงมาได้มอบธนบัตรซึ่งเย็บติดกัน จำนวน 2 ชุด ชุดละ 300 บาท ให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งจริง โดยจากการตรวจสอบคลิปวิดีโอประกอบคำร้อง
ฟังได้ว่า นางเกี๋ยงมา ได้ให้เงิน จำนวน 600 บาท กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งดังกล่าวเพื่อจูงใจให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้กับนายวัฒนาตามข้อกล่าวหา จึงเป็นหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่านางเกี๋ยงมา ทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจะเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นายวัฒนา ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 73(1) โดยนายวัฒนาได้รับประโยชน์ในการเลือกตั้งจากการกระทำของนางเกี๋ยงมา เป็นเหตุให้การเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 4 จ.ลำปาง แทนตำแหน่งที่ว่าง เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2563 ไม่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม