“ข่าวลึกปมลับ”ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 18 มกราคม 2565 ตอน แก้ปัญหาของแพง ใช้เงิน ไม่มีสมอง เท่ากับซ้ำเติมคนไทย
ปัญหาของแพง ที่ประชาชนคนไทยกำลังเผชิญกับสินค้าแทบทุกประเภทเขยิบราคาขึ้นยกแผงไปแล้ว สร้างความเดือดร้อนไปทั่วแผ่นดิน โดยเฉพาะอาหารการกิน วันนี้ป้ายราคา เมนูร้านอาหาร เปลี่ยนใหม่หมด ของเก่าต้องโยนทิ้ง เพราะยันราคาอาหารเดิมไม่ไหว อะไรๆก็แพง ต้นทุนสูงชนิดที่ต้องดิสรัปชั่นเมนูเก่าไป
เนื้อสัตว์แพง เป็นเรื่องใหญ่โดยเฉพาะหมูที่เป็นอาหารหลักของคนส่วนใหญ่ ปัจจัยเหตุที่ทำให้ราคาเนื้อหมูแพงเป็นประวัติการณ์ มีเหตุหลัก คือ
หมูเป็นโรค ตายไปเกือบครึ่งจากระบบจำนวนที่ป้อนเข้าตลาด มิหนำซ้ำอาหารสัตว์แพง ขึ้นราคาแบบพรวดพราด คนผลิตอ้างว่าวัตถุดิบอย่างข้าวโพดแพง อาหารสัตว์จำต้องปรับราคา
แต่อาศัยเหตุนี้ขึ้นราคาอาหารสัตว์ไป 30 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ต้นทุนเกษตรกรคนเลี้ยงหมูสูงขึ้น อยู่ไม่ได้ ทำไปก็เจ๊ง ปิดคอกหนีกันดีกว่า
มาเจอเกิดปัญหาโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือเอเอสเอฟ เป็นระเบิดลูกสังหาร ทำให้หมูตาย และเป็นต้นทุนให้เกษตรกรต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มในการป้องกันโรค ซึ่งเกษตรกรต้องสู้กับโรคเอเอาแอฟเพียงลำพัง ทั้งค่าวัคซีนและยา รวมทั้งการทำความสะอาดคอกและคนเลี้ยง
เพราะรัฐบาลปกปิด ไม่ยอมรับว่าโรคอหิวาต์เอเอสแอฟระบาดในประเทศไทย อวดเก่งอยู่ประเทศเดียว ทั้งที่โรคระบาดเกิดในจีนก่อนและประเทศเพื่อนบ้านเจอหมูป่วยเป็นอหิวาต์เอเอสแอฟกันทั้งนั้น
ความจริงเมืองไทยอหิวาต์หมูระบาด มาหลายปี แต่ทางการเพิกเฉยแกล้งไม่รู้ร้อนรู้หนาว กรรมจึงตกอยู่กับคนเลี้ยงทำให้สองสามปีที่ผ่านมา คนเลี้ยงหมูบอกเลิกอาชีพไปเยอะมาก
เช่นกรณีเฮียบุ้ง นครปฐม คนที่กล้าออกมาบอกความจริง ว่าอหิวาต์หมูทำให้เขาต้องกำจัดหมูเป็นโรคนับล้านตัว จนตอนนี้คอกหมูเหลือแต่หมา
หลังออกมาเปิดโปงความจริง สิ่งที่เกิดตามมากับเฮียบุ้งคือนอกจากรัฐจะปิดโรคระบาดหมูแล้ว ยังมีคนคิดเอาลูกปืนปิดปากเฮียบุ้งอีกด้วย
มาถึงไข่ไก่แพง อยู่ดีๆเจ้าของฟาร์มไก่ไข่ ก็ประกาศขึ้นราคาไข่ไก่หน้าฟาร์มอีก20-30สตางค์ ทั้งที่ไม่ได้มีปัญหาอะไร เหมือนกรณีหมู คงคิดอาศับช่วงชุลมุนหมูแพง ขอจับปลายามน้ำขุ่นหากำไรเข้ากระเป๋าบ้าง เท่านั้นเอง จนที่สุดรัฐบาลให้ขึ้น10 สตางค์ ทั้งที่ไม่ให้ขึ้นก็ได้
เช่นเดียวกับไก่ เกาะสถานการณ์ซ้ำเติมชาวบ้าน ต่อสร้างเรื่องขึ้นราคาไก่สด ทำให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กระโดดมาแก้ปัญหา หนึ่งในมาตรการแก้ปัญหา คือเสนอของบประมาณ 1.4 พันล้านบาท สกัดปัญหาไก่ขึ้นราคา
นายจุรินทร์ บอกกลยุทธ์กดราคาไก่สดไม่ให้ขยับราคาขึ้นว่า กำลังเร่งจัดหาและเปิดจุดจำหน่ายไก่เนื้อราคาถูก จำนวน 3,050 จุด ทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ตลาดสด ปั๊มน้ำมัน และรถโมบายเคลื่อนที่
โดยจะเสนอของบกลางในการประชุมครม. 18 มกราคมนี้ วงเงิน 1,400 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดหาและกระจายเนื้อไก่ไปตามจุดจำหน่ายในราคาที่ได้กำหนด และตกลงกับทุกฝ่ายแล้ว
เมื่อผ่านอนุมัติจะเร่งดำเนินการได้ทันที ผ่านโครงการพาณิชย์ลดราคา! ลดค่าของชีพประชาชนเพิ่มทางเลือก เพื่อสร้างความสมดุลด้านราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ ในตลาดและการบริโภคภาคครัวเรือนในสถานการณ์นี้ ระยะเวลาโครงการ 90 วัน
ก่อนหน้านี้ จุรินทร์ยืนยัน บะหมี่สำเร็จรูปไม่ปรับราคา คนก็อึ้งมาครั้งแล้ว พอเสนอของบหนึ่งพันสี่ร้อยล้านบาทไปสู้ราคาเนื้อไก่ ในเวลา90 วัน ก็ทำให้ประชาชนสิ้นหวัง ที่ได้เห็นว่าคนเป็นรัฐมนตรีคิดได้แค่นี้หรือ
เพราะแก้ปัญหาที่จ้องจะใช้เงินมากกว่าใช้สมอง และหลักการบริหาร รวมทั้งกลไกอื่นๆของรัฐมาช่วยแก้ไขแต่กลับเลือกวิธีผลาญงบอีกเป็นพันล้านบาทในยามบ้านเมืองต้องกู้เงินมาใส่งบประมาณทุกปี
มาตรการของจุรินทร์ไม่เป็นที่ยอมรับ แล้วยังถูกตั้งข้อสังเกต อย่างแหลมคมจากอ. ลอย ชุนพงษ์ทอง เป็นข้อๆว่าหากใช้วิธีการของจุรินทร์ จะมีผลลบหลายด้าน รวมทั้งเรื่องทุจริตจะตามมา เพราะว่า รัฐไม่เคยซื้ออะไรถูกกว่าชาวบ้าน เปิดช่องทุจริต ในการประมูลไก่ และเลือกซื้อแต่เจ้าใหญ่
ข้อท้วงติงที่ออกมาค้านมาตรการสกัดไก่ขึ้นราคา เป็นเสียงสะท้อนที่ต้องรับฟัง