“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 11 มกราคม 2565 ตอน ผวาเศรษฐกิจพัง เสี่ยงไม่ปิดประเทศ สู้ "โอมิครอน"
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ที่มี บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มีมาตรการ รับมือโอมิครอนระบาด ไม่มีการล็อคดาวน์
รัฐบาลไม่มียาแรงอะไร นอกจากการปรับระดับพื้นที่ทั่วประเทศให้เป็นพื้นที่ควบคุม หรือ สีส้ม เหมือนกัน 69 จังหวัด ในขณะที่อีก 8 จังหวัด และบางอำเภอใน 18 จังหวัด ยังคงเป็นพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว หรือ สีฟ้า เหมือนเดิม
เพียงแต่ขอให้ร้านเหล้าในพื้นที่สีฟ้า ปรับปรุงร้านตัวเองให้เป็นแบบร้านอาหาร เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่แออัด นอกนั้นกิจกรรม กิจการ ทุกอย่างทำได้เหมือนเดิม
นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือภาครัฐ ภาคเอกชน ให้ลากยาวทำงานที่บ้าน หรือ เวิร์ก ฟอร์ม โฮม จากเดิม 14 วัน ไปยันวันที่ 31 มกราคม
ส่วนเรื่องเทสต์แอนด์โก ที่กระทรวงสาธารณสุข อยากจะให้ระงับไว้ก่อน เพราะผวาเชื้อนำเข้าจากต่างประเทศที่เป็นตัวเลขสูงปรี๊ด หมอกลัวจะรับไม่ไหว แต่ปรากฏว่า ที่ประชุม ศบค. ให้น้ำหนักไปที่เรื่องเศรษฐกิจมากกว่า
นำโดย สุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ที่ขวางทางหมอ ขอไม่ให้ยกเลิก กลัวจะกระทบเศรษฐกิจ ยังต้องการให้การท่องเที่ยวขับเคลื่อนได้
ขณะที่ บิ๊กตู่ และ บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เห็นพ้องด้วย อย่าเพิ่งรีบไประงับตอนนี้ ขอดูสถานการณ์อีกทีว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะทะยานไปขนาดไหน แล้วค่อยมาประเมินกันใหม่อีกทีในวันที่ 15 มกราคม ว่าจะเอาอย่างไร ระงับหรือไม่ระงับ
ท่าที บิ๊กตู่ และรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กลัวกระทบเศรษฐกิจ มันก็พอทำให้เห็นสาเหตุว่า ที่รัฐบาลไม่กล้าระงับเทสต์แอนด์โก เพราะกลัวกระทบภาคเศรษฐกิจที่จะกลับไปปิด ไม่ได้อีกแล้ว
พูดกันภาษาชาวบ้าน รัฐบาลไม่มีงบประมาณจะไปเยียวยาให้ภาคธุรกิจใด เพราะปี 64 ที่ผ่านมา กู้มาใช้ในเรื่องนี้ไปเยอะ หากต้องควักอีกถังแตกแน่
ขนาดเรือดำน้ำของกองทัพเรือที่ค้างเติ่งมานาน รัฐบาลยังขอให้ชะลอออกไปอีกปี มันสะท้อนภาวะการเงินการคลังของประเทศตอนนี้ได้ดีว่า กระเป๋าแบนเต็มทน
รัฐบาลอยู่ในภาวะต้องรัดเข็มขัดให้แน่น จ่ายเงินซี้ซั้วไม่ได้ จึงจำเป็นต้องกลั้นใจไม่ปิดประเทศ เพื่อให้ภาคท่องเที่ยวที่ลมหายใจโรยรินยังเดินต่อไปได้
ขณะเดียวกัน ยังต้องหันไปหาเงินเติมใส่ถุงเงินเพิ่ม ตามคิวที่มีข่าวแว่วๆ ว่า กระทรวงการคลังจะหาทางรีดภาษีบางชนิดเพื่อมาเติม พยุงการขับเคลื่อนประเทศ
ว่ากันให้ชัดก็คือ สถานการณ์ตอนนี้รัฐบาลดูจะให้น้ำหนักมิติเศรษฐกิจมากกว่าสุขภาพด้วยซ้ำ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอาการของเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ โอมิครอน แม้จะติดได้ง่าย แต่ไม่ได้รุนแรงเหมือนกับสายพันธุ์เดลต้าที่คร่าชีวิตคนไทยไปหลายคนในช่วงปีที่ผ่านมา
อีกทั้งขณะนี้คนในประเทศได้รับวัคซีนกันไปเยอะ บรรเทาอาการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ รัฐบาลจึงยอมเสี่ยงไม่ล็อคดาวน์ ไม่ปิดประเทศ
บนการคาดคะเน กึ่งๆ จะเสี่ยงดวงของรัฐบาลในครั้งนี้อาจจะออกหน้าไหนก็ได้ ก็ภาวนาไม่ให้ โอมิครอน มันรุนแรงมากกว่า เพื่อให้อยู่ในสถานการณ์ที่รัฐบาลรับมือได้
แต่หากมันรุนแรงขึ้นมา ตรงนี้ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะรับมืออยู่หรือไม่ เพราะจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อมีโอกาสจะสูงกว่าปีก่อน เพราะสายพันธุ์นี้มันติดกันง่าย ระบบสาธารณสุขจะรับมือไหวไหม
ถ้ามีความผิดพลาดขึ้น ครั้งนี้คงไม่มีใครให้โอกาส ยิ่งเป็นช่วงปลายเทอมของรัฐบาลด้วย รอรับแรงกระแทกอย่างแรงได้เลย
ในเมื่อเลือกจะเปิดประเทศ ไม่ล็อคดาวน์ ยอมรับความเสี่ยง เพื่อให้เศรษฐกิจเดินไปได้ มันก็ต้องเตรียมการรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อ เตรียมสถานที่รักษา เตรียมระบบการรักษาที่บ้าน ไม่ให้เกิดเป็นประเด็นร้องเรียนว่อนไปเหมือนรอบก่อนๆ ขึ้นอีก
ปีนี้เป็นปีที่รัฐบาลต้องกอบกู้วิกฤติ กอบกู้ศรัทธาตัวเอง จากความล้มเหลวเมื่อปีก่อน
โอมิครอนรอบนี้ ต้องอย่าให้มีคนรอเตียงจนตาย คนตายข้างถนน คนหาสถานที่รักษาไม่ได้ ไม่เช่นนั้นมันจะเหมือนว่า รัฐบาลไม่ได้เรื่อง ที่ผ่านมาไม่ปรับปรุงความบกพร่องอะไรเลย