“ข่าวลึกปมลับ” ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันจันทร์ที่ 27 ธันวาคม 2564 ตอน บ้าอำนาจคนเดียว เหม็นไปทั้งกองทัพ
เรื่องที่ นาวาเอก อลงกรณ์ ปลอดดี ผอ.กองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ แสดงตัวกร่าง วิเคราะห์ดูแล้ว พฤติกรรมเช่นนี้ ไม่น่าจะเมาเหล้าเมาเบียร์อย่างเดียว แต่คงเป็นคนเมาอำนาจ มากกว่า
ด้วยที่เห็นได้จากเหตุการณ์ฉาวโฉ่ ด่ากราดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปตรวจร้านอาหาร โดยไม่ลดราวาศอกทั้งที่ตำรวจก็อ่อนน้อมถ่อมตน ให้ความเกรงใจอย่างสุดๆให้แล้ว แต่อลงกรณ์ก็ไม่ลดความกราดเกรี้ยว
สังเกตุได้จากอาการกร่างของอลงกรณ์ ที่เข้าขั้นการฝ่าฝืนและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ แถมยังข่มขู่ตำรวจด้วยการปาแก้วน้ำและขวดใส่ พร้อมไปกับพูดจาเหยียดหยามศักดิ์ศรีตำรวจ ด้วยภาพและเสียงตลอดที่ปรากฏในคลิปที่ถ่ายจากเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่23 ธันวาคม
พฤติกรรมนายทหารคนนี้ ชัดเจนว่า บ้าอำนาจมากกว่าบ้าเพราะเหล้า แน่
คนในสังคมรับไม่ได้ ขนาดอยู่ต่อหน้าตำรวจยังกล้าทำอย่างนี้ ถ้าประชาชนเจอเขา เกิดมีเรื่องมีราว เป็นปัญหากัน จะเหลืออะไร คนบ้าอำนาจแบบนี้ จึงต้องถูกลงโทษที่เด็ดขาดจากกองทัพ
ทีทหารเกณฑ์ทำผิด ยังถูกลงโทษเสียอ่วมทุกราย รายนี้เป็นนายทหาร เป็นทหารอาชีพ ยิ่งกว่านั้นยังเป็นทหารหน่วยรบซีล ที่ฝึกร่างกายและจิตใจมาอย่างดี แต่กลับทำตัวตรงข้าม การลงโทษต้องไม่มีคำว่าปราณี
ทหารทุกเหล่าทัพเป็นรั้วของชาติ ไม่ใช่กุ๊ย หรือกาฝากสังคม ถ้าทหารเลวสังคมก็ไร้ที่พึ่ง ประเทศชาติก็อ่อนแอ ซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ไปก็เสียดายเงินภาษีประชาชน อีกทั้งไม่รู้วันไหนปากกระบอกปืนจะหันเข้ามาใส่ประชาชน
พูดได้ว่า เรื่องฉาวของนาวาเอก อลงกรณ์ กำลังเป็นเหตุจมเรือของกองทัพเรือ โดยทำร้ายความรู้สึกประชาชนคนไทย ที่มีความศรัทธาเชื่อมั่น ผูกใจรักทหารเรือมานาน แต่กรณีนี้เหมือนกองทัพเรือโดนยิงด้วยขีปนาวุธตอปิโดเข้าจังๆ
ถ้ากองทัพเรือไม่กล้าตัดเนื้อร้ายก้อนนี้ เกียรติภูมิลูกประดู่ มัวหมองแน่ๆ และจะเป็นภาพจำด้านลบในความคิดของคนไทย ต่อไป
ตำรวจได้แจ้งความอลงกรณ์ ไปแล้วสองข้อหา คือ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ และพูดจาดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ ที่จริงควรโดนฝ่าฝืนพรก. ควบคุมสถานการณ์ฉุกเฉินอีกข้อหา เพราะอลงกรณ์เมาและดื่มเหล้าในร้านอาหาร โดยไม่ให้ความร่วมมือกับตำรวจ เพราะฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ
ทางกองทัพเรือ ยอมรับคดีอลงกรณ์กร่าง ว่ามีผลกระทบกองทัพเป็นวงกว้าง จึงมีคำสั่งให้นาวาเอก อลงกรณ์เข้าฟื้นฟูวินัย ที่ศูนย์ธำรงวินัยทหารเรือ เป็นเวลา14 วัน แต่หลังจากนี้ ใครจะเห็นว่าอลงกรณ์ถูกลงโทษทางวินัยขั้นไหน สาสมกับการกระทำหรือไม่
รวมทั้ง ใครจะรู้ว่า คดีอาญา ที่ตำรวจเป็นผู้เสียหาย ทำไหนทำมา เมื่อกระแสเรื่องนี้เงียบไป คดีนี้จะหายไปด้วยหรือไม่ เพราะอลงกรณ์ซ่าได้ถึงขนาด ท้าทายทุกอำนาจ คงไม่นางาเอกทหารเรือธรรมดาเป็นแน่
ดูที่หน้าที่การงานปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการกองอสังหาริมทรัพย์ ของฐานทัพเรือสัตหีบ พื้นที่,านทัพเรือสัตหีบเป็นจุดศูนย์รวมเขี้ยวเล็บของทัพเรือ และมีที่ดิน อสังหาริมทรัพย์มากมาย เท่ากับมีผลประโยชน์มากเช่นกัน
คนที่จะมานั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการกองอสังหาริมทรัพย์ ย่อมมีเครดิตเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจของบิ๊กสัตหีบ เพราะฉะนั้น มองได้ว่า อลงกรณ์มีโอกาสได้รับการช่วยเหลือให้ผ่านพ้นวิบากกรรมครั้งนี้ไปได้ไม่ยากนัก เพราะมันทำไปแล้ว จะเป็นการหยิกเล็บเจ็บเนื้อ หรือไม่
เว้นแต่ ผู้บังคับบัญชาเอาจริง และถ้าต้องการล้างบ้านจริง ดับไฟที่จะเผาความศรัทธา ก็ต้องตรวจสอบหนังสือร้องเรียนอลงกรณ์ด้วย ที่ถูกกล่าวหาไปเบียดเบียนประชาชน ทั้งเรื่องบุกรุกเข้าไปใช้บ้าน ที่อ้างว่าจะซื้อ และขับเรือยอชต์ของคนอื่น ไปทำความเสียหายด้วย
คดีนาวาเอก อลงกรณ์ ปลอดดี ย่อมเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญของกองทัพเรือ จะจัดการเรื่องทั้งหมด และให้คำตอบแก่สังคมอย่างไร