xs
xsm
sm
md
lg

ศึกก๊อปปี้แบรนด์ เสือพ่นไฟตบหมีคว่ำ เหล้า "แอ๊ด บาว" มีหนาว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 24 ธ.ค.64 นำเสนอรายงานพิเศษ ศึกก๊อปปี้แบรนด์ เสือพ่นไฟตบหมีคว่ำ เหล้า "แอ๊ด บาว" มีหนาว



เสือตบหมีคว่ำ กลายเป็นข่าวฮือฮาอย่างมาก เมื่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง พิพากษาให้ “เสือพ่นไฟ” หรือ Fire Tiger ชนะ “หมีพ่นไฟ” หรือ The Fire Bear

ข้อหาละเมิดเครื่องหมายการค้า และเครื่องหมายบริการ

โดยหมีพ่นไฟต้องชดใช้ค่าเสียหายให้เสือพ่นไฟ เป็นเงิน 10 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยและค่าเสียหายเดือนละ 1 แสนบาท นับจากวันฟ้อง คือวันที่ 30 พ.ย. 2563
ถือเป็นค่าเสียหายในคดีเครื่องหมายการค้าที่สูงที่สุด ในประวัติศาสตร์ประเทศไทยเลยทีเดียว

ทั้งสองแบรนด์ คือการสัประยุทธ์ในธุรกิจชานมไข่มุก โดยเสือพ่นไฟเป็นแบรนด์ที่จับกลุ่มลูกค้าตลาดบน ขณะที่หมีพ่นไฟ เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งต้องบอกว่า มาทีหลัง แต่ดังกว่า

เพราะหมีขายถูกกว่าเสือเกินครึ่ง เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างกว่า เพราะขยายสาขาไปแทบทุกตรอกซอกซอย ด้วยรสชาติที่ไม่ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

ปัจจุบัน เสือพ่นไฟมีจำหน่าย 16 สาขาทั่วประเทศ และ 13 สาขาในต่างประเทศ นับแต่เริ่มเปิดตัวเมื่อปี 2561

ขณะที่หมีพ่นไฟ เติบโตอย่างพรวดพราดภายในเวลาเพียง 2 ปี นับแต่ปี 2562 จนมีสาขาทั่วประเทศแล้วกว่า 200 สาขา

แฟนคลับของหมีพ่นไฟ จึงมีปริมาณที่มากกว่าเสือพ่นไฟ ซึ่งพอเห็นข่าวการแพ้คดี ก็มีการโวยวายว่า ลอกตรงไหน ในเมื่อหมีกับเสือ สัตว์คนละชนิดกัน

แต่จุดสลบของหมี ตามคำพิพากษา ก็คือการมีประติมากรรมหัวหมีอ้าปาก แล้วใช้เป็นช่องทางส่งชาไข่มุกให้ลูกค้า เหมือนกับเสือพ่นไฟนั่นเอง เข้าข่ายความผิดทางฐาน “ลวงขาย”

เจ้าของแบรนด์เสือพ่นไฟ ฝ่ายโจทก์ กล่าวหลังทราบผลคดีว่า อยากให้เป็นคดีตัวอย่าง การทำธุรกิจควรให้เกียรติกัน ไม่ใช่ลอกกันอย่างจงใจ

เพราะการได้แรงบันดาลใจ กับการลอกเลียนแบบ มันมีความแตกต่างกัน

เสือก็เลยรุกไล่หมีต่อ ด้วยการลุยฟ้องคดีอาญาด้วย กะให้หมีถึงขั้นสูญพันธุ์ไปจากโลก

แต่ปราบหมีได้ก็ใช่ว่าจะจบ เพราะการก๊อบจนประสบความสำเร็จของหมีพ่นไฟ นำมาสู่ชานมไข่มุกสารพัดสิงสาราสัตว์ ที่ล้วนแต่อ้าปากพ่นไฟ นับสิบแบรนด์

ไม่ว่าจะ แรดพ่นไฟ ฮิปโปพ่นไฟ สิงโตพ่นไฟ คิงคองพ่นไฟ ลิงน้อยพ่นไฟ แมวพ่นไฟ เป็ดเหลืองพ่นไฟ ไดโนเสาร์พ่นไฟ มังกรพ่นไฟ ฉลามพ่นไฟ หมูชมพูพ่นไฟ รวมถึงแอฟโฟร่พ่นไฟ

แปลว่า แฟรนไชส์สารพัดสัตว์พวกนี้ เตรียมตัวหนาวๆ ร้อนๆ ได้เลย พี่เสือจะบุกมาตะปบถึงตายเมื่อไรก็ไม่รู้

ในเรื่องเดียวกัน ชาวเนตมีการตั้งคำถามถึงกรณีเหล้าบรั่นดีไทยด้วย เพราะมองว่าแบรนด์ Galaxy ของ “น้าแอ๊ด คาราบาว” ทำรูปลักษณ์ขวดและฉลาก คล้ายคลึงกับ Regency รวมไปถึงสีสันและรสชาติในขวด

บรรดานักดื่มมองผ่านๆ ก็รู้สึกได้ ถึงความพยายามของ Galaxy ที่จะทำตัวให้คล้ายคลึง Regency เข้าไว้

ความที่ตลาดบรั่นดีไทย มีมูลค่าสูงถึง 4,500 ล้านบาท โดย Regency ยึดครองไปกว่า 85% เป็นความเย้ายวน จนค่ายคาราบาวแดง อดใจไม่ไหว

ไม่แน่ คดีตัวอย่างระหว่าง “เสือพ่นไฟกับหมีพ่นไฟ” อาจนำมาสู่การพึ่งศาลตีความ ในสินค้าอย่างอื่นก็เป็นได้ และเม็ดเงินความเสียหาย ก็คงมากกว่าชานมไข่มุกอย่างเทียบกันไม่ได้เลยทีเดียว


กำลังโหลดความคิดเห็น