ศาลอาญาจำคุก 15 ปี ปรับ 5 ล้าน “หญิง-ชาย” เพื่อนสนิท ฆ่า “หมอศรุต” อุ้มโยนจากตึก 4 ชั้น ย่านคลองจั่น-ลาดพร้าว ปมเหตุประเด็นชู้สาว เมื่อ 11 ปีที่แล้ว
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 711 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1794/2563 ที่พนักงานอัยการสำนักงานอัยการสูงสุดเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นพ.ปราโมทย์ มั่นเมือง จำเลยที่ 1 และ น.ส.จิตวิมล สุขสุวรรณ จำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2553 เวลากลางคืน จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันโยน นพ.ศรุต ทวีรุจจนะ อายุ 28 ปี แพทย์เฉพาะทางพยาธิวิทยา รพ.จุฬาลงกรณ์ จากชั้น 4 ซึ่งมีความสูงประมาณ 9.76 เมตร ของอาคารอพาร์ตเมนต์ ย่านลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2553 ทำให้ร่างของ นพ.ศรุต กระทบพื้นคอนกรีตจนถึงแก่ความตาย
ในวันนี้ มารดา นพ. ศรุต และครอบครัว เดินทางมาฟังคำพิพากษา
ทั้งนี้ ศาลได้พิจารณาพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคลและพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบแล้ว เชื่อว่าจำเลยทั้ง 2 กระทำผิดจริง
พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสอง ฐานร่วมกันฆ่าผู้ตาย ไม่ใช่กรณีที่ผู้ตายฆ่าตัวตาย โดยมีสาเหตุจากเรื่องชู้สาว จำคุกจำเลย คนละ 15 ปี แต่จำเลยทั้งสองให้การเป็นประโยชน์ จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 10 ปี และให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ให้กับมารดาผู้ตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม คดีนี้เกิดมานานมาก มีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวนหลายคณะ จนต่อมาพนักงานอัยการมีคำสั่งให้ฟ้องคดี ซึ่งผู้พิพากษาศาลอาญาได้ออกไปเดินเผชิญสืบดูที่เกิดเหตุแล้ว เชื่อว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดจริง จึงพิพากษาลงโทษ เป็นการปิดฉากคดีดังเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ซึ่งคดีนี้พนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลในปี 2563 ศาลอาญาได้เร่งรัดพิจารณาคดีให้แล้วเสร็จภายในเวลาเพียง 1 ปี ทั้งที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่คู่ความทั้งสองฝ่าย
ภายหลังฟังคำพิพากษามารดา นพ.ศรุต กล่าวว่า พอใจกับคำพิพากษา เชื่อว่า ความยุติธรรมมีจริง เพราะจากพยานหลักฐานต่างๆ ตนเชื่อว่า บุตรชายไม่ได้ฆ่าตัวตาย แต่เป็นการฆาตกรรม ส่วนจะยื่นอุทธรณ์ให้ศาลลงโทษหนักกว่าเดิมหรือไม่ ต้องขอปรึกษากันก่อน
ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น.ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว นพ.ปราโมทย์กับน.ส.จิตพิมล โดยใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินกู้เงินคนละ 500,000 บาท