“ข่าวลึกปมลับ”ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 21 ธันวาคม 2564 ตอน กสทช.ผ่าน 5 ใน 7 ส.ว.ตีร่วงเด็กสร้าง
จบแล้วกับ การสรรหา กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือกสทช. ชุดใหม่ ได้ตัวมาทำหน้าที่แทนกสทช.ชุดปัจจุบัน ซึ่งเข้ามาตั้งแต่ปี 2554รวมเวลาอยู่กันรากงอกมาร่วมสิบปี
จน กสทช.บางคนในชุดปัจจุบัน หมดวาระเพราะอายุเกิน ต้องพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว เช่น พลอากาศเอก ธเรศ ปุณศรี อดีตประธาน กสทช. ส่วนบางคนก็ลาออกไปเล่นการเมืองคือ พันเอก ดร. เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ อดีตรองประธาน กสทช. ที่ปัจจุบันเป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคภูมิใจไทย เป็นต้น
กสทช.ชุดปัจจุบันอยู่มานานได้ เพราะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งหัวหน้าคสช. ให้กสทช.ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะได้กสทช.ชุดใหม่ มาถึงตอนนี้ ก็ถึงเวลาต้องไปแล้ว
โดยเมื่อวันจันทร์ที่20 ธันวาคม ที่ประชุมวุฒิสภา มีการประชุมทั้งเปิดเผยและประชุมลับหลายชั่วโมง มีมติเห็นชอบ ว่าที่กสทช.ชุดใหม่ป้ายแดง ห้าคน และตีตก ไม่ให้ความเห็นชอบ สองชื่อ
ขานชื่อชัดๆกันอีกครั้ง สำหรับว่าที่กสทช.ป้ายแดง ประกอบด้วย
-พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ รองเลขาธิการ กสทช.
-ดร.พิรงรอง รามสูต อาจารย์ประจำคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์
-นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ อาจารย์คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
-ต่อพงศ์ เสลานนท์ นายกสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ที่มีความคุ้นเคยกับงานของกสทช.อยู่แล้วเพราะเข้ามาทำงานที่ตึกกสทช.ตั้งแต่ยุค สุภิญญา กลางณรงค์ อดีตนักเคลื่อนไหว ยังเป็นกสทช.และปัจจุบันต่อพงษ์ ก็เป็น ที่ปรึกษาประจำรองประธาน กสทช.
-ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย ผู้อำนวยการสถาบันอาณาบริเวณศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ส่วนชื่อที่ไม่ได้รับความเห็นชอบ สองคนคือ
กิตติศักดิ์ ศรีประเสริฐ กรรมการองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ อดีตกรรมการบริษัท กสท. โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ที่ถูกเสนอชื่อด้านกิจการโทรคมนาคม และ ธนกฤษฏ์ เอกโยคยะ รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ที่ถูกเสนอชื่อในด้านกฎหมาย
เมื่อยังขาดอีกสองชื่อดังกล่าว จึงทำให้ต้องไปเปิดรับสมัครและสรรหากันมาใหม่ ในสาขาด้านกฎหมายและกิจการโทรคมนาคมต่อไป โดยนาายกิตติศักดิ์ และนายธนกฤษฏ์ จะเข้ารับการสรรหาในครั้งใหม่ไม่ได้
ตามพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ปัจจุบัน หากมีกสทช.ไม่น้อยกว่าห้าคน ก็ปฏิบัติหน้าที่ได้ ดังนั้น กสทช.ชุดใหม่คลอดแล้วแน่นอน และอยู่ในตำแหน่งไม่เกินเจ็ดปี
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าการลงมติของวุฒิสภาดังกล่าว มีข่าวในทางลับออกมาว่า ผลการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการสามัญตรวจสอบประวัติและมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกสทช. ที่มีพลเอกอู้ด เบื้องบน เป็นประธานที่มีการตรวจสอบและหาข้อมูลทางลับและทางลึกจาก 18 หน่วยงานรัฐเช่น สำนักงานป.ป.ช. -สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน -สำนักงานตำรวจแห่งชาติ -ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น
กรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตุไว้ในรายงานลับที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนว่า ผู้ได้รับการเสนอชื่อบางราย มีปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติต้องห้ามในการดำรงตำแหน่ง กสทช. รวมทั้งอาจมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนตามมาได้หากเข้าไปเป็นกสทช.
จนเป็นห่วงว่า ปมข้อกังขาต่างๆ อาจมีปัญหาถึงขั้นทำให้บางฝ่ายหยิบยกไปเป็นประเด็นฟ้องศาลปกครองเพื่อ ฟ้องล้มกระดานการเลือกกสทช.ได้ในอนาคต ถ้าชื่อที่คาใจเข้าไปเป็นกสทช.
ถ้าต้องการตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ให้บางชื่อ นำไปสู่การฟ้องล้มกระดานทั้งหมด ก็ต้องใช้วิธี กดไฟแดง ไม่ให้ชื่อที่มีปัญหาไปเป็นกสทช.
ขณะที่ก็มีกระแสข่าวว่า บางรายชื่อที่เข้ารอบมาเจ็ดคน ลือกันทั่วตึกวุฒิสภาว่ามีอดีตบิ๊กตำรวจ ระดับยศพล.ต.อ. ที่มากบารมีทางการเมืองและวงการแต่งตั้งโยกย้าย พยายามผลักดันคนของตัวเองเข้าไปเป็นกสทช.ด้วยหลายชื่อ
จนทำให้ กลุ่มสว.สายหลักที่มีอยู่จำนวนมาก มองว่าอาจไม่เป็นผลดี ถ้าจะมีใครบางคน ส่งคนเข้าไปคุมกสทช.ที่มีผลประโยชน์ในวงการโทรคมนคม-สื่อวิทยุโทรทัศน์และกิจการกระจายเสียงหลายแสนล้านบาท เลยต้องมีการตีตกบางชื่อไป และเพื่อให้รู้ว่า สว.ไม่ได้จะกดปุ่มสั่งได้หมดทุกเรื่อง
ตามพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ปัจจุบัน หากมีกสทช.ไม่น้อยกว่าห้าคน ก็ปฏิบัติหน้าที่ได้ ดังนั้น กสทช.ชุดใหม่คลอดแล้วแน่นอน