รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 17 ธ.ค.64 นำเสนอรายงานพิเศษ “โนรา”มรดกโลก คนไทยได้ลุ้นต่อ สงกรานต์-ต้มยำกุ้ง
จากที่เกือบเป็นของตกยุค แต่แล้ว “โนรา” ก็คืนชีพกลับมาเป็นของที่มีชื่อเสียงระดับโลกไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโก ประกาศรับรองขึ้นทะเบียน “โนรา” (Nora) เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
นับเป็นมรดกทางภูมิปัญญาของไทยลำดับที่ 3 ต่อจากโขน (พ.ศ.2561) และ นวดไทย (พ.ศ.2562) ที่ได้ขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก
โนรา หรือมโนราห์ เป็นศิลปะการแสดงพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมของคนในภาคใต้ มีการร้อง รำ ดนตรี และการแต่งกาย ที่มีเอกลักษณ์
การแสดงโนรา มีทั้งเพื่อความบันเทิง และการแก้บนผีบรรพบุรุษ ตามความเชื่อ
โนราตามแบบฉบับดั้งเดิม จะใช้นักแสดงเป็นผู้ชายล้วน เครื่องดนตรีไทย แต่ปัจจุบัน มีการประยุกต์ ให้มีนักแสดงหญิง ตลอดจนมีดนตรีลูกทุ่ง เพื่อเพิ่มสีสันความบันเทิง
จากเดิม เรื่องยอดฮิตมีแต่ พระสุธน-โนรา ต่อมา มีการนำนิยายประโลมโลกต่างๆ มาแสดง บ่งบอกถึงความพยายามการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยของโนรา
นักแสดงโนราที่ได้รับการยกย่องเป็นระดับครูหรือปรมาจารย์ มีชื่อว่า ขุนอุปถัมภ์นรากร นามเดิม “พุ่ม ช่วยพูลเงิน” ชาว อ.ควนขนุน จ.พัทลุง มีชีวิตระหว่างปี พ.ศ. 2434-2526 สิริรวม 92ปี
ขุนอุปถัมภ์นรากร มีทักษะการร่ายรำท่าเทวดาราวกับเป็นเทวดา จนได้รับการเรียนขานว่า “โนรา พุ่มเทวา”
หลังจากมีชื่อเสียงโด่งดังทั่วภาคใต้ ก็ได้รับเชิญให้ไปรำถวายรัชกาลที่ 6 จนได้รับราชทินนาม “ขุนอุปถัมภ์นรากร”
ต่อมา ยังได้รำถวายรัชกาลที่ 9 ถึงสองครั้ง คือ เมื่อปี 2502 ณ พลับพลาที่ประทับ ศาลากลางจังหวัดพัทลุง และปี 2514 ซึ่ง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นำไปรำถวาย ณ พระที่นั่งจิตรลดารโหฐาน
หม่อมคึกฤทธิ์เขียนสดุดีการแสดงของขุนอุปถัมภ์นรากรว่า
“ศิลปที่ท่านขุนฯแสดงออกนั้น เป็นศิลปบริสุทธิ์ เป็นแสงสว่างที่ส่องออกมาจากในใจของคนที่เจริญแล้วด้วยวัฒนธรรมอันสูงส่ง เป็นอำนาจ เป็นพลัง ที่อยู่เหนือกาลเวลาและอายุคน”
เมื่อปี 2516 เคยมีภาพยนตร์เรื่อง “โนราขุนอุปถัมภ์นรากร” บันทึกเหตุการณ์ในพิธีไหว้ครู ที่วิทยาลัยครูสงขลาด้วย
หลังจากโนรา ได้ขึ้นเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ลำดับที่ 3 ของไทย ยังมีของดีของไทยให้คนไทยได้ลุ้นกันต่ออีก 2 อย่าง คือเทศกาล “สงกรานต์ในประเทศไทย” และเมนู “ต้มยำกุ้ง” ที่มีการเสนอให้ยูเนสโกพิจารณาไปแล้ว
โดยมีรายการที่เตรียมเสนอยูเนสโกในลำดับต่อไป คือ มวยไทย และเทศกาล “ผีตาโขน”
ความภูมิใจไทยแลนด์ ยังมีให้ลุ้นกันยาวๆ