รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 1 ธ.ค.64 นำเสนอรายงานพิเศษ เปิดลับ กล่องสุ่ม 100 ล้าน ใน 10 นาที เจาะใจขายคนชอบลุ้น
น่าจะเป็นสถิติที่ยากทำลาย สำหรับการไลฟ์สดขายของได้ 100 ล้านบาท ภายใน 10 นาที
กวาดสายตาทั่วปฐพีไทย คงหาใครจะทำได้น้อยถึงน้อยที่สุด
นอกจากหนึ่งเดียวคนนี้ “พิมพี่พาย” พิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ แห่งเพจ “พิมรี่พายขายทุกอย่าง”
กุญแจความปัง คือการนำจุดขาย 2 อย่างมาไขว้กัน อย่างแรก คือ เรตติ้งเฉพาะตัวของพิมพี่พายเอง อย่างที่สอง ก็คือ เป็นการขาย “กล่องสุ่ม” ที่เป็นเครื่องมือปั๊มยอดขายของสินค้ามากมายในช่วงปีสองปีหลังมานี้
โดยการที่ยอดขายจะทะยานไปถึงหลัก 100 ล้านได้ ก็จำเป็นต้องเป็นกล่องสุ่มราคาแรง ซึ่งนักขายมือทองอย่างพิมรี่พาย กล้าที่ตั้งราคากล่องสุ่มเครื่องสำอางของเธอ ถึงกล่องละ 100,000 บาท
กลายเป็นว่าราคาหลักแสน ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ราวกับของแจกฟรี ทำยอดได้ถึง 1 พันกล่อง ในเวลาแค่ 10 นาที ซึ่งพิมพี่พายก็ปิดการขายทันที ที่ทำได้ตามเป้า
“เรื่องของกูนะ จะใส่อะไรบ้างก็แล้วแต่ จะได้อะไรไม่รู้นะ เดี๋ยวจะใส่ไปให้ ใครจะซื้อก็ซื้อ” นี่คือประกาศของพิมพี่พายในขณะไลฟ์ครั้งประวัติศาสตร์
ได้ยินเช่นนั้น แทนที่คนซื้อจะลังเลว่าจะได้สินค้าคุ้มเงินหรือไม่ กลายเป็นว่าแต่ละคนไล่กด F กันอุตลุด เหตุการณ์เช่นนี้ ไม่ใช่พิมรี่พาย ทำไม่ได้อย่างนี้แน่นอน
อันว่า กล่องสุ่ม เป็นเทคนิคการตลาดที่ล้อเล่นกับใจคนอย่างได้ผล เพราะคนซื้อได้รับความท้าทาย ความหวัง ความเซอร์ไพรส์ เราไม่มีทางรู้ จะมีอะไรอยู่ในกล่องนั้น
ถ้าขุดค้นประวัติการก่อกำเนิดกล่องสุ่ม ต้องย้อนไปถึงยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยทีเดียว โดยผู้ริเริ่มเทคนิคการขายนี้ คือประเทศญี่ปุ่น นำสินค้ามาขายคละในถุงโชคดี หรือ Lucky Bag ซึ่งก็ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจบัน
จริงๆ แล้ว ร้านค้าต้องการระบายของค้างสต๊อก เลยนำมาคละขายกันในถุงโชคดี แต่กลับได้รับความนิยมจากคนญี่ปุ่น บางครั้งถึงขนาดต่อแถวเข้าคิวซื้อ
คนโชคดีจริงๆ ก็คือคนขายนั่นเอง
สำหรับเมืองไทย กล่องสุ่มเริ่มฮิตประมาณปี 2562 เมื่อเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ นำกล่องสุ่มจากต่างประเทศมาเปิด แล้วบูมอย่างมากในปี 2564 อย่างช่วงล็อกดาวน์ เป็นนาทีทองของกล่องสุ่มอาหารทะเล ทำยอดขายกันกระจาย
ปัจจุบัน กล่องสุ่มแทบจะขายทุกอย่าง สากกะเบือยันเรือรบ ในเว็บไซต์ขายของออนไลน์ยักษ์ใหญ่ จะมีกล่องสุ่มสินค้าสารพัด ตั้งแต่ราคาไม่กี่ตังค์ขึ้นไปเลยทีเดียว
แม้แต่ไม้ด่าง บอนสี แคคตัส ก็มีกล่องสุ่มขายออนไลน์กับเขาด้วย เรียกว่าสินค้าแทบทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนเอามาทำเป็นกล่องสุ่มได้
ความเป็นเทรนด์ฮิต ทำยอดขายสุดปัง ก็นำมาสู่การเข้ามาหาผลประโยชน์โดยมิชอบของมิจฉาชีพด้วย เช่น กล่องสุ่มจากสิงคโปร์ จ้างยูทูบเบอร์ดังๆ ของไทยให้ช่วยขาย แต่ขายแล้วไม่ส่งของ แถมปิดเว็บหนีไป มูลค่าความเสียหายนับสิบล้านบาท ก็เคยเป็นคดีมาแล้ว
เพราะฉะนั้น ความน่าเชื่อถือของร้าน ความคุ้มค่าของสินค้า ก็เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องพิจารณาด้วย ไม่ใช่สนุกกับการลุ้นจนเกินขอบเขต
ทั้งนี้ จะเห็นว่า ความน่าเชื่อถือของตัวพิมรี่พาย ของสินค้าในร้านเธอ ขนาดตั้งราคากล่องสุ่มถึง 1 แสนบาท ลูกค้าก็ไม่กลัวที่โดนหลอก หรือได้ของไม่คุ้ม
หลักการของกล่องสุ่ม อาจนำไปดัดแปลงใช้กับการตลาดอย่างอื่นได้ เนื่องจากตามหลักวิชาการตลาด ระบุไว้ว่า
“ความตื่นตาตื่นใจ หรือความเซอร์ไพรส์ คือเครื่องมือการตลาดที่ทรงพลัง”นั่นเอง