xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : “ก้าวไกล” ฮึกเหิม ดัน “ศิริกัญญา” ชิงผู้ว่าฯ กทม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ”ออกอากาศทาง NEWS1 ล้วงปมลึก คลายปมลับ ตีแผ่ประเด็นร้อน กับ นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมือง และกระบวนการยุติธรรม วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ตอน “ก้าวไกล” ฮึกเหิม ดัน “ศิริกัญญา” ชิงผู้ว่าฯ กทม.



หลังจบสนามเลือกตั้ง องค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต. ต่อไปถึงคิวเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. ที่เป็น สมรภูมิการเลือกตั้งท้องถิ่นแห่งสุดท้ายหลังจากคสช. ยึดอำนาจกาีปกครอง และจะเป็นศึกใหญ่ที่จะวัดศักดิ์ศรีของบรรดาพรรคใหญ่ชื่อดังทั้งเก่าและใหม่ ใครจะยึดพื้นที่กรุงเทพมหานคร

หากเป็นไปตามข้อตกลงเดิมของ สามฝ่าย คือ รัฐบาล คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. และกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีบทบาทและหน้าที่จัดการเลือกตั้งท้องถิ่น การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะกำหรดขึ้นหลังจากนี้ ภายใน 90 วัน ถ้าไม่เป็นไปตามนี้ ก็เท่ากับมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเบี้ยวแล้ว

ตอนนี้ มีสี่พรรคที่จะส่งผู้สมัครลงสู้ค่อนข้างแน่ ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคก้าวไกล แม้ว่า อย่างพลังประชารัฐจะไม่ส่งคนสมัครผู้ว่ากทม. ในนามพรรค แต่จะให้การสนับสนุนคนมดคนหนึ่ง อย่างเป็นทางการ

ว่ากันตามจริง สนาม กทม. เป็นการเมืองท้องถิ่นที่มีความแตกต่างพื้นที่อื่นๆ อย่างสิ้นเชิง ด้วยที่กทม. ไม่มี “อิทธิพลบ้านใหญ่” หรือ ตระกูลการเมืองเจ้าพ่อภูธร ที่ยึดพื้นที่เบ็ดเสร็จ เป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดในผลแพ้ชนะ

ไม่มีอิทธิพลบ้านใหญ่ ไม่มีการครอบงำสั่งการจากโจรการเมือง คนกรุงเทพก็มีอิสระกับการลงคะแนน แต่ธรรมชาติอย่างหนึ่งของคนกรุงมักจะตัดสินเลือกคนที่อยู่ขั้วตรงข้ามรัฐบาลในขณะนั้นเสมอ

แต่อย่างไรก็ตาม สนาม กทม. “กระแสพรรคการเมือง” กับ”ความนิยมตัวคนสมัคร” จะต้องมาพร้อมกัน และต้องแรงทั้งสองด้าน จึงจะสร้างโอกาสได้เก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. ไปนั่ง เป็นเจ้าพ่อเสาชิงช้าสี่ปี บริหารเงินงบประมาณปีละหลายหมื่นล้านบาท

จากผลเลือกตั้งปี 2562 หรือสองปีกว่าที่ผ่านมา กระแสคนเมืองหลวงเทเสียงให้ พรรคพลังประชารัฐ กับกระแส “บิ๊กตู่ฟีเวอร์” เอาชนะ ส.ส.ไปได้ 12 เขต พรรคเพื่อไทย และอดีตพรรคอนาคตใหม่ ได้มาพรรคละ 9 เขต รวมเป็น 30 เขต พรรคประชาธิปัตย์ถูกดับเครื่องไม่มีส. ส. กทม. แม้แต่คนเดียว

ทำให้ เวลานี้พลังประชารัฐยังได้ชื่อว่าเป็นพรรคการเมืองที่มีอิทธิพลฐานเสียงเหนือกว่ารายอื่นในกทม. ยิ่งมาเป็นรัฐบาลที่กุมกลไกทางการเมือง กลไกราชการ และองค์กรตามรัฐธรรมนูญได้เบ็ดเสร็จ ก็ต้องยอมรับว่า พลังประชารัฐ มีโอกาสจะยึดเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. ไปครองมากกว่าใครอยู่หลายประตู

เป็นที่รู้กันดี ว่า บิ๊กป้อม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ เบนเข็มไปสนับสนุน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าคนปัจจุบัน ที่แสดงท่าทีจะลงสมัคร มากกว่าวางมือ แต่อัศวินจะลงสมัครอิสระในนาม “กลุ่มรักษ์กรุงเทพ” โดยมีเงาพรรคพลังประชารัฐอยู่ข้างหลัง

เช่นเดียวกับ กับพรรคเพื่อไทย ก็จะสนับสนุนอย่างเปิดเผยเป็นทางการให้กับ นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ที่จะสมัครอิสระไม่สังกัดพรรคเพื่อไทย จนคนนินทาว่าเข้าทำนองเกลียดตัสกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง ชัชชาติ เปิดตัวมานานปีกว่า ยังมีเสียงนิยมชมชอบออกมาเป็นอันดับหนึ่งสม่ำเสมอ ต้องยกให้เขาเป็นเต็งหนึ่งแต่หลังเปิดศึกแล้วไม่รู้จะรั้งตำแหน่งนี้ได้หรือไม่

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์มา “สวนกระแส” เตรียมส่งคนสมัครในนามพรรค ชื่อที่เต็งหนึ่งคือ “ดร.เอ้”ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

แม้ว่า ปชป. จะยังไม่เปิดชื่ออย่างเป็นทางการ แต่ก็ชัดแล้ว เพราะบารมีของคุณหญิง กัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ล็อกตัว สุชัชวีร์มาเจ้าประชาธิปัตย์ เนื่องจากคุณหญิง กัลยา เป็นคนที่สุชัชวีร์ให้ความเคารพนับถือ มานาน ชนิดที่เรียกว่าข้อเสนอคุณหญิงกัลยา สุชัชวีร์ จะปฏิเสธไม่ได้

มาดูทางฝ่ายอดีตพรรคอนาคตใหม่ “พรรคก้าวไกล” และคณะก้าวหน้า ที่ทำงานในสนาทเลือกตั้งท้องที่มาถึงสามศึกแล้ว คือ สนามเลือกตั้งอบจ. เทศบาล และอบต. ซึ่งในการศึกที่อบต. คณะก้าวหน้าประกาศชัยชนะกับการได้นายกอบต. มารวม 38 แห่งทั่วประเทศ ส่งให้มีความคึกคัก ฮึกเหิมขึ้นเยอะ เป็นขวัญกำลังใจให้ฝันถึงชัยชนะในสนามใหญ่ที่กรุงเทพทันที

ขณะการเฟ้นหาตัวคนลงสมัครผู้ว่าฯกทม. ของคณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล มีกระแสภายในบอกว่า มีความพยายามดัน “คนใน” อย่าง “ส.ส.ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลขึ้นชิงผู้ว่าฯ กทม.

ด้วยสามารถขายตัว ส.ส.ใหม่ได้ จากผลงานในสภาที่โดดเด่น โดยเฉพาะเศรษฐกิจ และการขายนโยบายต่างๆ

ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกล มีการพูดคุยกับหลายคนที่เสนอตัวเข้ามา ทั้งภาควิชาการและนักธุรกิจ แต่ยังคงไม่สะเด็ดน้ำ จนชื่อ “ศิริกัญญา” ถูกยกขึ้นมาล่าสุด

สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. คณะก้าวหน้าคงวางเป้าหมายให้น้ำหนักเก้าอี้สมาชิกสภากทม. หรือส. ก. 50 ที่นั่งมากจะเอาชนะผู้ว่าฯกทม. ที่ถ้ากระแสไม่แรงขนาดพายุ คงสู้พรรคอื่นยาก แต่ถ้าเป็นส. ก.คง มีโอกาสพาคนเบียดแย่งเข้ามาได้ ไม่มากก็น้อย

และเมื่อได้ส. ก. ก้าวหน้าเข้สสภากทม. ก็จะสามารถทำผลงานสร้างชื่อได้ ในการทำหน้าที่ และบทบาทตรวจสอบการใช้งบประมาณของกทม. หรือจับทุจริตในกทม. ที่แตะตรงไหนก็เจอการคอรัปชั่น ฉ้อราษฎร์บังหลวง ตรงนั้น เรื่องเหล่านี้กลุ่มก้าวหน้าและก้าวไกลถนัดทุบอยู่แล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น