xs
xsm
sm
md
lg

เศร้า! นร.ยากจนไม่มีอุปกรณ์เรียน ทำเนียบฯ แจกไอโฟน12

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รายการ “ถอนหมุดข่าว” ทาง NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันที่ 25 พ.ย. 64 นำเสนอรายงานพิเศษ นร.ยากจนไม่มีอุปกรณ์เรียน ทำเนียบฯ แจกไอโฟน12



เลข 111 จริงๆ ก็เป็นเลขสวย แต่ไปๆ มาๆ เหมือนจะนำความซวยมาให้รัฐบาล

สืบเนื่องจากการจัดซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟน 12 จำนวน 111 เครื่อง ของสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี วงเงิน 2,681,355 บาท เพื่อให้ผู้บริหารและข้าราชการได้ใช้งาน

เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นการผลาญภาษีโดยใช่เหตุหรือไม่

แล้วยิ่งมูลนิธิกระจกเงา โพสต์ร้องขอสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ช่วยส่งต่อไอโฟนที่ตกรุ่นแล้ว 111 เครื่อง มายังมูลนิธิ เพื่อจะได้นำไปช่วยเหลือเด็กยากไร้ ได้เรียนออนไลน์

และเป็นการแบ่งเบาภาระให้ผู้ปกครอง ที่อยู่ในสถานการณ์ขัดสน

คราวนี้เลยกลายเป็นข่าวดราม่าเต็มตัว ฉายภาพขัดแย้งตัดกัน ระหว่างรัฐบาลสุรุ่ยสุร่าย กับนักเรียนออนไลน์ยากจน

ผู้ที่ออกมารับหน้าเสื่อ ออกมาฝ่ากระแสดราม่า คือ น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ ชี้แจงว่า การจัดซื้อไอโฟน 12 จำนวน 111 เครื่องครั้งนี้ ถือเป็นการจัดซื้อครุภัณฑ์ เช่นเดียวกับการจัดซื้อคอมพิวเตอร์

โดยรุ่นเดิม ที่สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือ สลน. ใช้งานอยู่ คือ ไอโฟน 7 ที่มีอายุการใช้งานเกิน 4 ปีแล้ว ปัจจุบันก็มีสภาพชำรุดด้วย

ตามคำชี้แจง ระบุว่า ในจำนวน 111 เครื่องดังกล่าว มีจำนวน 23 เครื่อง กันไว้ให้ผู้ใหญ่ที่เข้ามาทำงาน อย่างข้าราชการเมืองได้ใช้งาน

น.ส.นัทรียา ยังกล่าวถึงกรณีมูลนิธิกระจกเงา ร้องขอเครื่องเก่า 111 เครื่อง เพื่อไปช่วยเหลือเด็กยากจนว่า ยินดีให้การสนับสนุน และขอบคุณมูลนิธิกระจกเงาที่เห็นประโยชน์ของโทรศัพท์เก่าเหล่านั้น ทั้งที่เป็นของเก่ามาก และมีประสิทธิภาพการใช้งานไม่สมบูรณ์

ทั้งนี้ คำชี้แจงทั้งหลายจากที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี มี 3 ประเด็น ที่พอจะมีเหตุผลรองรับ ได้แก่ 1.ไอโฟน 7 เป็นรุ่นเก่ามากแล้วจริงๆ 2.วงเงินจัดซื้อ 2.6 ล้านบาทเศษ นับว่าไม่แพงกว่าราคาตลาด

และ 3.นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ขอรับไอโฟน 12 มาใช้งาน โดยขอมอบสิทธิให้ข้าราชการที่มีความจำเป็นมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพตัดกันแรง ระหว่างรัฐบาลผู้ฟุ่มเฟือย กับนักเรียนผู้ขาดแคลน ส่วนหนึ่งเกิดขึ้นเพราะการจัดซื้อ ดำเนินไปในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำ จากพิษโควิด 19 และอื่นๆ

พูดง่ายๆ ว่า ผิดจังหวะ ผิดกาลเทศะ ในความรู้สึกของประชาชน

โดยเฉพาะการระบาดของโควิด 19 ก่อให้เกิดนิวนอร์มอล ต้องมีการเรียนออนไลน์ทดแทนการเรียนในโรงเรียน

นักเรียนจากครอบครัวยากจน ยังขาดแคลนอุปกรณ์สำหรับการเรียนออนไลน์ และก็ไม่เคยได้รับการช่วยเหลืออย่างชัดเจนใดๆ จากรัฐบาล

มีคำด่าขับเคลื่อนประเทศ ประมาณว่า คนมีเงินเดือนเป็นแสนๆ กลับได้ใช้ไอโฟนฟรี แต่เด็กยากจน ที่มีความจำเป็นต้องเรียนออนไลน์ กลับต้องดิ้นรนกันเอง โดยไม่ได้รับความเหลียวแลจากรัฐบาล

มีข้อมูลจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หรือ กสศ. แพร่ออกมาช่วงเดือน ส.ค. 2564 ระบุว่า โควิด 19 ส่งผลให้จำนวนนักเรียนยากจนและยากจนพิเศษ หรือยากจนเข็ญใจ เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ จาก 1,726,995 คน ในช่วงปีการศึกษา 2/2562 หรือก่อนการแพร่ระบาด กลายเป็น 1,873,830 คน ช่วงปีการศึกษา 2/2563

และประเมินว่า นักเรียนยากจนและยากจนพิเศษ จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,900,000 คน ในปีการศึกษา 2564

ทั้งนี้ นักเรียนยากจนพิเศษในพื้นที่ 29 จังหวัดสีแดงเข้ม จำนวนกว่า 270,000 คน มีปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์เรียนออนไลน์ และไม่มีไฟฟ้าใช้

การที่ครอบครัวมีรายได้ลดลงเพราะสถานการณ์โควิด โอกาสทางการศึกษาของนักเรียนเหล่านั้น จึงมีมูลค่าสูงเกินกว่าที่พวกเขาจะแบกไหว

นอกจากนี้ ผลสำรวจของคณะศึกษาศาสตร์และพัฒนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า นักเรียนไทยเข้าถึงระบบเรียนออนไลน์แค่ 45 เปอร์เซนต์

สาเหตุจากไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์ 66 เปอร์เซนต์ ไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้ที่บ้าน 57 เปอร์เซนต์ และไม่มีสมาร์ทโฟน 36 เปอร์เซนต์

ถ้ารัฐบาลรีบใช้จังหวะนี้ ดำเนินการลดความเหลื่อมล้ำ ระหว่างรัฐบาลกับนักเรียนยากจน ก็จะกลายเป็นการแปรวิกฤต “ไอโฟน 111 เครื่อง” เป็นโอกาสทางการเมืองไปได้ แต่คงยากเพราะรัฐบาลทำให้เห็นแล้วว่า เป็นประเภทปากดี แต่ไม่ทำตามคำพูด


กำลังโหลดความคิดเห็น