MGR Online - สน.แสมดำ-สืบ 9 แกะรอยภาพกล้องวงจรปิด คนร้ายใช้มีดข่มขู่พนักงานร้านสะดวกซื้อ ได้เงินสด 5 พันกว่าบาท พบหลบหนีซุกบ้านพ่อที่ จ.สมุทรสาคร รับสารภาพ นำไปใช้หนี้เหลือ 140 บาท
วันนี้ (22 พ.ย.) เวลา 13.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 แถลงข่าว พ.ต.อ.อชิรวิทย์ ทองจันดี ผกก.สน.แสมดำ ตำรวจสืบสวน สน.แสมดำ และ กก.สส.บก.น.9 จับกุม นายภูหลวง (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี พร้อมของกลาง เงินสด 140 บาท, มีดทำครัวปลายแหลม ยาว 11 นิ้ว, รถจักรยานยนต์ 1 คัน ได้ภายในอาคารพาณิชย์ เลขที่ 189/607 หมู่ 5 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
พล.ต.ต.โชคชัย กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 20 พ.ย. เวลา 21.46 น.ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.แสมดำ ได้รับแจ้งมีคนร้ายก่อเหตุใช้มีดข่มขู่ล็อกคอพนักงานเคาน์เตอร์ร้านสะดวกซื้อ สาขาอมรชัย 4 ได้เงินสดไป 5,800 บาท แล้วขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นโซนิค สีน้ำเงิน-ขาว หลบหนีมุ่งหน้าแยกบางกระดี่ ฝ่ายสืบสวน สน.แสมดำ และ กก.สส.บก.น.9 ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบคนร้ายขับรถจากที่เกิดเหตุมาตามถนนพระราม 2 เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางกระดี่ เลี้ยวขวาเข้าซอยบางกระดี่ 32 ทะลุออกซอยแสมดำ 17 เลี้ยวซ้ายไปตามถนนแสมดำ มุ่งหน้า ต.พันท้ายนรสิงห์ ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบทะเบียนรถคนร้าย พบว่าผู้ถือกรรมสิทธิ์มีตำหนิรูปพรรณไม่ตรงกับคนร้าย
จากการสืบสวนทางเทคนิคทราบว่า บุตรชายเจ้าของรถชื่อ นายภูหลวง มีส่วนสูงและตำหนิรูปพรรณใกล้เคียงกับคนร้าย โดยทราบว่า บิดาเปิดร้านซ่อมรถและพักอาศัยอยู่อาคารพาณิชย์ เลขที่ 189/607 หมู่ 5 ต.พันท้ายนรสิงห์ ใกล้เคียงกับจุดที่คนร้ายขับรถหลบหนีมา ฝ่ายสืบสวนจึงออกไปเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณอาคารดังกล่าว กระทั่งเมื่อวันที่ 21 พ.ย. เวลา 07.45 น. พบชายและหญิงสูงอายุออกมาเปิดประตู ข้างในมีรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายขับจอดอยู่ เข้าแสดงตัวขอตรวจค้นพบตัว นายภูหลวง
เบื้องต้นให้การยอมรับสารภาพว่า เงินไม่พอใช้ วันเกิดเหตุได้ขับรถวนดูร้านสะดวกซื้อหลายแห่ง จนพบว่าร้านดังกล่าวปลอดคนเมื่อสบโอกาส จึงเข้าไปก่อเหตุใช้มีดข่มขู่พนักงานเปิดลิ้นชักเคาน์เตอร์ได้เงินสดไป 5,800 บาท นำไปใช้หนี้เหลืออยู่ 140 บาท ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.แสมดำ ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธมีด โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”